วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

ลางเนื้อชอบลางยา

'ชอบแรงๆ จ๊ะ แต่คืนนี้แรงมากไม่ได้เดี๋ยวน้องหนูตื่น น้องหนูมานอนด้วย'' พี่จินกระซิบเสียงสั่น ''อ้าวตอนแรกทำไมเอ็งไม่บอกข้า'' เสียงห้าวๆ ลดความดังไปเช่นเดียวกับเสียงป้าบๆ ที่ปลุกผมขึ้นมากลางดึก
 

ผมเป็นนักวิ่ง บ้านอยู่พิจิตร เรียนหนังสือในตัวจังหวัด ตอนต้นปีทางโรงเรียนส่งนักกีฬาเข้ามาแข่งในกรุงเทพฯ ผมคัดเลือกไม่ติด แต่อยากแข่งเลยขอทางโรงเรียนมาด้วย แต่จะพักกับพี่สาวในกทม.
 
พี่มาลีเป็นคนโตเลี้ยงผมมาแต่เด็ก อายุ 24 มีแฟนแล้วแต่เลิกกันเมื่อปีก่อน แกเช่าหอพักอยู่คนเดียว ผมไปพักกับแกแล้วออกไปแข่งกีฬาแต่เช้าได้เหรียญทองวิ่งทนพี่มาลีดีใจเปิด เบียร์เลี้ยงฉลองให้ ผมดื่มเข้าไปสองแก้วก็ขอนอนเพราะเหนื่อยมากขึ้นเตียงก็หลับเป็นตาย
 
รู้สึกตัวเหมือนมีใครมาร้องครางในห้อง ''ซี้ด..ซี้ด..ฮือ..ฮืออ'' เสียงดังมาจากมุมห้องที่พี่มาลีนอน ตอนแรกนึกว่าผีหลอก ไม่กล้าหันไปทางเสียงคราง พอเงียบก็มีเสียงเหมือนอะไรกระแทกกัน ฉึก...ฉึก...ฉึก...
 
เสียงกระแทกกันนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ จนดัง ป้าบ...ป้าบ...ป้าบ...ชัดเจน แล้วก็ได้ยินเสียงพี่มาลีเรียกชื่อน้าชินอย่าแรงนักนั่นแหละจึงรู้ว่าไม่ใช่ ผี  ค่อยๆ หันหน้าไปทางเสียงได้เห็นเงาคนสองคนกำลังทำอะไรกัน
 
ผมรู้ว่าเป็นพี่มาลี แต่แฟนพี่มาลีไม่ได้ชื่อชิน คงจะเป็นแฟนใหม่ ผมไม่กล้าขยับตัวทำเสียงดังเพราะกลัวพลาดโอกาสพิเศษพี่สาวแสดงหนังสดให้ดู
 
ในห้องไม่ได้เปิดไฟแต่แสงจากถนนเข้ามาทางหน้าต่างเห็นการเคลื่อน ไหวชัดเจน พี่มาลีนอนหงายสองขายกขึ้นสูง ส่วนคนที่ชื่อน้าชินแทรกตัวตรงกลาง ขย่มตัวใส่พี่มาลี ดังป้าบ...ป้าบ... พอพี่มาลีบอกว่ากลัวผมตื่นเขาก็ลดความแรงลง แต่ยังพอได้ยิน
 
''แค่นี้ได้ไหม'' เสียงห้าวกลายเป็นเสียงกระซิบ ''แรงอีกนิดก็ได้น้าชิน'' พี่มาลีกระซิบตอบเลยมีเสียงดังขึ้น ''แค่นี้นะ ข้าไม่อยากให้มันตื่นมาขัดจังหวะ เอ็งมันหรือยังล่ะ'' ''มันแล้วจ๊ะ มันแล้ว น้าชินแรงดีจริงๆ ทำให้หนูมันได้ทุกที'' ''ข้าก็ชอบของเอ็งมันสู้ข้าไม่เคยถอย ไม่เหมือนเด็กข้า แรงหน่อยมันร้องเจ็บ มีความสุขกันค่อยๆ จะสนุกอะไรว่ะ'' ''จ๊ะ ต้องแรงๆ อย่างน้าชินนี่แหละ หนูจะเสร็จแล้วนะ''
 
เสียงพี่มาลีตอบโต้กับน้าชินดังสอดแทรกจังหวะการเข้าโรมรันต่อสู้ กัน ผมเพิ่งรู้ว่าได้เห็นหนังสดแบบเงารางๆ ได้อารมณ์ดีกว่าดูหนังแผ่นตั้งเยอะ ของผมหัวเยิ้มร้อนผ่าวติดมือเลยครับ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น