วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

เปิดโลกจินตนาการเด็กวัยเรียนด้วย Tux Paint

เปิดโลกจินตนาการเด็กวัยเรียนด้วย Tux Paint


Tux Paint เป็นโปรแกรมวาดภาพที่ช่วยเสริมสร้างความถนัดทางศิลปะและจินตนาการให้กับเด็ก ๆ โดยโปรแกรมออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน และมีการใช้เสียงประกอบภาพสัตว์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานอีกด้วย

Tux Paint มีสองส่วนคือส่วนของตัวโปรแกรม ( ส่วนหลัก ) และส่วนของ Stamps ( ส่วนเสริม ) ซึ่งการติดตั้งจะติดตั้งเฉพาะส่วนของตัวโปรแกรมก็สามารถใช้งานได้


มาดูดาวกับ Stellarium

มาดูดาวกับ Stellarium


Stellarium เป็นโปรแกรมท้องฟ้าจำลองในรูปแบบ 3 มิติ ที่ทำให้เราสามารถดูดาวได้จากทุกสถานที่ทั่วโลก ได้ในทุกเวลา เพียงนั่งอยู่ที่บ้านและเปิดโปรแกรมนี้ขึ้นมา

Stellarium สามารถแสดงกลุ่มดาวตามวัฒนธรรม บอกทิศทางของดวงดาว การซูมหรือเลือกทิศทางการดู การเร่งเวลาหรือทำให้เวลาถอยหลัง และเครื่องมืออื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณดูดาวได้ง่ายขึ้น สนุกขึ้น ลองลงโปรแกรมตัวนี้ใน Notebook แล้วเอาไปดูประกอบในสถานที่จริงซิครับ


version 0.10.3

Web : www.stellarium.org

เที่ยวทั่วโลกในแบบ 3D กับ Google Earth

เที่ยวทั่วโลกในแบบ 3D กับ Google Earth


Google Earth ช่วยให้คุณสำรวจไปได้ทุกที่ในโลก ดูภาพถ่ายจากดาวเทียม แผนที่ และภูมิประเทศ สิ่งปลูกสร้าง 3 มิติ ตั้งแต่กาแล็กซีที่อยู่นอกอวกาศไปจนถึงหุบเขาลึกใต้มหาสมุทร คุณสามารถสำรวจเนื้อหาทางภูมิศาสตร์ที่มีอยู่มากมาย รวมทั้งได้บันทึกสถานที่ต่างๆ ที่คุณเดินทางมาแล้ว และใช้ข้อมูลร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย

นอกจากนี้ Google Earth ยังให้คุณได้ศึกษาภาพถ่ายเชิงประวัติจากทั่วโลก ข้อมูลก้นมหาสมุทรและผิวน้ำจากผู้เชี่ยวชาญด้านวาริชศาสตร์ สร้างการนำทางท่องเที่ยวที่แสนจะง่ายดายพร้อมบันทึกเสียงพูดและดนตรีประกอบ


Web : earth.google.com

MyPaint แต่งเติมจินตนาการบนผ้าใบดิจิตอล

MyPaint แต่งเติมจินตนาการบนผ้าใบดิจิตอล

ภาพจาก mypaint.intilinux.com

น้อง ๆ หนู ๆ หลายคนชอบใช้ Paint ที่ติดมากับ Windows วาดรูปและระบายสีเล่น และคุณก็อาจเป็นอีกคนหนึ่งด้วย แต่โปรแกรมที่แถมมากันวินโดวส์ ไม่ค่อยตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ เพราะเครื่องมือต่าง ๆ มีอย่างจำกัด มาลองดูฟรีแวร์ตัวนี้ดูครับ

MyPaint เป็นโปรแกรมวาดภาพบนผ้าใบดิจิตอล ที่มีเครื่องมือหลากหลายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นวาดลายเส้นด้วยดินสอ สีน้ำหรือสีน้ำมันจากปลายภู่กันและอื่นๆ การวาดภาพทำได้ทั้งการใช้ลายเส้น (Free Hand) และการสแตมป์ลาย (Stamps) นอกจากนี้ยังสามารถเลือกพื้นผิวของผ้าใบที่คุณต้องการ และหากใช้จนชำนาญ ก็จะสร้างสรรค์ภาพสวย ๆ ไว้อวดเพื่อนได้อีกด้วย


วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

คำถามสุดคลาสสิกของน้ำอสุจิ

คำถามสุดคลาดสิกของน้ำอสุจิ



 

น้ำอสุจิกินได้จริงหรือ?
น้ำ อสุจิ หรือน้ำกาม ประกอบด้วยโปรตีนค่อนข้างสูง การกลืนน้ำอสุจิจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้าหากฝ่ายที่กินน้ำอสุจิมีบาดแผลที่บริเวณปาก และอวัยวะเพศของอีกฝ่ายหนึ่งมีเชื้อโรค อย่างเช่น กามโรค หรือโรคเอดส์ ก็อาจทำให้ผู้ที่กินน้ำอสุจิมีโอกาสติดโรคได้ ดังนั้น ถ้าไม่แน่ใจก็ไม่ควรกินเข้าไป


กินน้ำอสุจิเข้าไปแล้วจะท้องจริงไหม?
เรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อกลืนน้ำอสุจิลงท้อง ตัวอสุจิจะต้องถูกทำลายโดยกรดในกระเพาะอาหาร จึงไม่สามารถทำให้เกิดการตั้งท้องได้

กินน้ำอสุจิแล้ว จะทำให้ผิวพรรณดูดี และรักษาสิวได้?
น้ำ อสุจิถึงแม้จะมีฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าสามารถช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น และใช้ทารักษาสิวได้ แต่ว่าไม่เป็นความจริงเลย เพราะสาเหตุของการเกิดสิวเกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ดังนั้น การรักษาสิวจึงต้องรักษาด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า อย่าปล่อยให้หน้ามันหรือสกปรก แค่นี้สิวก็จะไม่ขึ้น


กินน้ำอสุจิแล้ว หน้าอกจะโตขึ้น (อึ้มขึ้น)?
ก็ ไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน หากหลายคนเชื่อเช่นนั้นว่า หน้าอกของภรรยาของตนใหญ่ขึ้นนั้นมีได้ 3 สาเหตุใหญ่ๆ คือ ภรรยากำลังตั้งครรภ์ ,ภรรยาอ้วนขึ้น และคุณสามีได้ใช้ศิลปชั้นสูงในการนวดค่ะ

กินน้ำอสุจิ (ตอนทำ "ออรัลเซ็กซ์" แล้ว ผู้ชายจะมีความสุขมากขึ้น?)
อัน นี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลค่ะ แต่ "รู" เทียมรึจะสู้ "รู" จริงได้ละ แต่ผู้ชายบางคนก็ชอบนะคะ ที่จะให้แฟนสาวของตน "กินน้ำ" ของตนเอง เพราะว่าเวลาที่จะถึงจุดสุดยอด หากเอามา "ออก" นอกปาก ความสุขที่ได้ มันเหมือนๆ กับถูก "หยุดจังหวะ" มากกว่า

 

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

7 ข้อ แฟนที่ไม่ควรรัก

7 ข้อ แฟนที่ไม่ควรรัก


ทราบหรือไม่ว่าแฟนแบบไหนที่เราไม่ควรจะรัก วันนี้มีมาบอกกันค่ะ...

1. แฟนประเภทชอบรื้อฟื้น
ชอบ พูดแต่เรื่องเก่าๆ สมัยที่ผ่านมานาน และชอบพูดถึงแฟนเก่าว่าดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ พร้อมจับทั้งแฟนใหม่กับแฟนเก่ามาเปรียบเทียบกัน ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้แฟนใหม่หมดกำลังใจไปเรื่อยๆ

2. แฟนชอบโกหกจนเป็นนิสัย

การโกหก เป็นยาพิษที่บ่อนทำลายความรักได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด

3. แฟนเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า

เผลอ หน่อยไม่ได้ต้องเอาตัวเข้าไปเบียดกับคนอื่น และอ้างเหตุผลเดิมๆ ว่า เด็กเขายั่ว อย่างนี้เราก็อย่าลดตัวไปเป็นมารคอหอยเขาเลยแล้วกัน

4. แฟนที่ไม่สนว่า..จำเป็นต้องเอาใจคนรักอะไร..กันนักหนา

หากรักกันจริงก็ควรดูแลเอาใจใส่ไม่ใช่คิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเหลียวแล ความรักคือการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน

5. แฟนไม่เคยมีเวลาให้
รวมถึงการผิดนัด บอกปัด อ้างงานเยอะ แม้แต่วันหยุดก็ไม่รู้หายไปไหน อย่างนี้จะเป็นแฟนกันไปทำไม

6. แฟนไม่เคยทำตามสัญญา
อย่าสัญญาเพียงลมปากอย่างเดียว แต่ต้องทำให้เป็นจริงด้วย

7. แฟนที่ชอบตอกย้ำซ้ำเติมปมด้อยให้น้อยเนื้อต่ำใจได้ตลอดเวลา

ถ้าใครอยากได้แฟนที่ดีๆ ก็อย่าให้นิสัยเข้าข่ายตามข้อที่แนะนำนะคะ...

3 เคล็ดลับดูแลคุณแม่ท้องลาย

3 เคล็ดลับดูแลคุณแม่ท้องลาย


ไม่อยากให้ริ้วรอยใดๆ มากล้ำกรายผิวสวย ต้องช่วยกันถนอมดูแลผิวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งคุณแม่มักเผชิญกับหน้าท้องลาย ซึ่งเป็นปัญหาผิวพรรณที่น่าหวั่นใจ ถ้าไม่แก้ไขหรือบรรเทาให้เบาบางลงด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ก็จะทิ้งริ้วรอยผิว ไว้ไม่งามตา ได้ค่ะ

เคล็ดลับที่ 1 ดูแลผิวหน้าท้อง?ต้องเริ่มตั้งแต่ตั้งครรภ์

แม้ ว่าจะหลีกเลี่ยงปัญหาท้องลายได้ยาก และไม่มีทางป้องกันปัญหานี้ เพราะไม่มีครีมหรือยาทาชนิดใดที่จะป้องกันปัญหาท้องลายอย่างได้ผล แต่คุณแม่ก็ทาครีมแก้ไขหรือบรรเทาให้ลดลงได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ช่วงแรกๆ เพราะถ้าปล่อยไว้เนิ่นนานไปจนถึงช่วงหลังคลอด ปัญหาริ้วรอยที่ไม่น่าพิสมัยเหล่านี้จะแก้ไขได้ยากกว่าที่คาดค่ะ


เคล็ดลับที่ 2 เผยผิวสวยดูแลด้วยเครื่องบำรุงผิว


- แม้การใช้เครื่องบำรุงผิวพรรณทาหน้าท้องจะไม่สามารถป้องกันท้องลายให้คุณแม่ ได้โดยตรง แต่ก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอได้ จึงเท่ากับเป็นการช่วยลดความรุนแรงของปัญหาท้องลายได้ทางอ้อมเช่นกัน

- ขณะตั้งครรภ์อ่อนๆ ควรใช้เครื่องบำรุงผิวพรรณ เช่น น้ำมันมะกอก ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ หรือเบบี้โลชั่นชนิดใดก็ได้ที่ปลอดภัย โดยเน้นส่วนผสมที่สกัดมาจากธรรมชาติ

- ทาครีมทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จหรือเมื่อรู้สึกคัน โดยเมื่ออาบน้ำเสร็จให้เช็ดตัวเพียงพอหมาดๆ แล้วรีบทาครีมบำรุงผิวให้ทั่วท้องทันทีเพราะช่วงนั้นผิวจะเก็บความชุ่มชื้น ได้มากที่สุด

- ทาหน้าท้องเบาๆ เป็นประจำต่อเนื่องไปจนถึงช่วงใกล้คลอด เพื่อช่วยลดปัญหาหน้าท้องแตกลายหลังคลอด แล้วเพิ่มปริมาณเนื้อครีมให้มากขึ้นตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นด้วยนะคะ

- เลือกโลชั่นชนิดที่มีเนื้อครีมเหนียวข้น เพราะสามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าและนานกว่าแบบทั่วไป

- หมั่นทาผิวหน้าท้องในระหว่างวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังบริเวณหน้าท้องได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องทาเพียงเช้าเย็นวันละ 2 ครั้งหลังอาบน้ำเท่านั้น โอกาสที่ผิวหนังแตกลายก็จะลดลงได้ดั่งใจ

- ผิวพรรณในร่มผ้ากับปัญหาท้องลาย ปัญหานี้เกิดขึ้นจากผิวหนังบริเวณท้องยืดขยายตัวออกมากและเป็นไปอย่างรวด เร็วจนผิวปริแตก เพราะการคันของมดลูกที่กำลังขยายตัว หรือการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ผิวหนังจะขยายตัวได้ ทัน และในช่วงหลังคลอดผิวบริเวณหน้าท้องที่เคยยืดขยายตัว ก็ไม่สามารถหดกระซับกลับสู่สภาวะเดิมได้ทั้งหมด เหล่านี้จึงเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอย และความหย่อนยานของผิวจนเกิดเป็นหน้าท้องลายได้

เคล็ดลับที่ 3 บอกลาผิวท้องลายดูแลง่าย ๆ ด้วยการอาบน้ำ

- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดๆ เลือกอาบน้ำธรรมดา น้ำที่ค่อนข้างร้อนจะทำให้ผิวแห้ง แตกเป็นขุยเพราะขาดความชุมชื้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้หน้าท้องแตกลายมากขึ้น?

ส่วน คุณแม่ที่เกิดอาการคัน เพราะหน้าท้องแห้งและขยายตัว ต้องหลีกเลี่ยงการเกาด้วยค่ะ แล้วใช้ครีมทาผิวแทนการเกาจะช่วยลดปัญหาท้องลายได้ทางหนึ่งแถมยังช่วยถนอม ผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นน่าชื่นใจไปตลอดการตั้งครรภ์ไปจนถึงช่วงหลังคลอด ด้วยค่ะ

หลอกไปถูกหลอก

หลอกไปถูกหลอก (1)



''ทอง..นี่อาสร้อยรู้จักกันเอาไว้'' ผมยกมือไหว้ผู้หญิงกลางคนที่พ่อแนะนำ ''อาสร้อยเป็นน้องพ่อ'' ''ไม่ใช่..อาสร้อยช่วยดูแลย่าแทนพ่อหลายปีแล้ว..สร้อยอายไปอยู่ไหนล่ะเรียก มารู้จักกันนานๆ ทองมันจะยอมมาสวน''




ผมอายุ 16 เรียน ม.5 กำลังห้าวแต่ไม่กล้าขัดใจพ่อ ยอมมาสวนของย่ากว่าสิบไร่ใกล้แปดริ้ว กราบพบย่าแล้วพ่อพาเดินชมสวน มีมะม่วงเป็นส่วนใหญ่แต่มีไม้อื่นแซมด้วยมันร่มเย็นดีแถมมีปลาผุดในท้องร่อง ให้เห็นน่าหย่อนเบ็ด

บ้านอาสร้อยติดกับเรือนใหญ่ของย่า อยู่กันสองคน อาสร้อยกับอายลูกสาวอายุ 15 กำลังเรียน ม.3 ตั้งแต่นั้นผมมาเที่ยวสวนไม่ขาด เพราะชอบหย่อนเบ็ด แต่ไม่สนิทกับอาสร้อยและอายเท่าไหร่ แต่รู้ว่าอายชอบผม เพราะเธอแอบมองผมตลอดไม่ว่าทำอะไร

สอบขึ้น ม.6 ผ่านแล้วผมก็มาเที่ยวสวนพอดีย่าไม่ค่อยสบายขอให้ผมพักด้วยหลายๆ วัน ส่วนพ่อจะไปๆ กลับๆ เพราะมีงานต้องทำ (ลืมบอกไปว่าแม่ผมตายสามปีก่อน) ช่วงนั้นผมจึงได้เห็นหน้าตารูปร่างอายถนัดตา

อายออกมาดายหญ้าเก็บผลไม้ตามปกติ ช่วงมีนาอากาศร้อนจัดอายทำงานไม่นานก็เดินมาได้ร่มไม้ริมบ่อ ถอดเสื้อชาวสวนแขนยาวเหลือเสื้อยืดแขนกุดเปียกเหงื่อแนบตัว โดยไม่เห็นว่าผมนั่งหย่อนเบ็ด

สาวชาวสวนช่างหุ่นดี ผิวสวยเหมือนผลไม้ถูกห่อด้วยใบตอง เมื่อแกะใบตองออกจะพบผิวนวลผ่องเป็นยองใยน่ากินน่าขย้ำ น้องอายบิดตัวผมเห็นเต้าขนาดใหญ่ล้นออกมานอกยกทรงจนเป็นเนินแนบเสื้อเปียก

หน้าท้องรึก็แบนราบไปกับคราบเหงื่อเหมือนนางแบบบอบบาง แต่อายร่างอวบอิ่ม ตอนนั้นผมยังไม่เห็นขาอ่อนอายว่าจะแข็งแรงขนาดไหน อายโชว์อกอิ่มเป็นรางวัลให้ผม พอเหงื่อแห้งก็สวมเสื้อกลับไปทำงานตามเดิม

ได้เห็นรูปร่างของอายแล้วหัวใจคันคะเยอ แต่เกาไม่ได้ อยากจะชวนอายไปเล่นครอบครัวจ้ำจี้มะเขือเปาะเพื่อให้หายคันหัวใจ ผมจึงผูกมิตรสองแม่ลูกเพิ่มขึ้นด้วยการหาของขวัญพวกน้ำหอมครีมบำรุงเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว

ของขวัญได้ผลครับแต่ใช้เวลานานจนถึงโรงเรียนให้หยุดดูหนังสือ สอบกลางปี ม.6 ผมขนหนังสือไปสวนคุณย่า พอดีอายได้หยุดท่องหนังสือด้วยเราเลยไปปูเสื่อท่องหนังสือกันปลายสวน

บอกแล้วว่าผมกำลังห้าว ก่อนมาผมหาสมุดภาพคู่สอดติดมากับกองหนังสือ พอได้จังหวะดีผมดึงสมุดภาพคู่ออกมาแต่เอาถุงปิดไว้ แล้วบอกอายจะกลับไปเอาหนังสือใหม่ที่บ้านย่าแต่ไปปีนขึ้นต้นมะม่วงใหญ่แอบดู

เธอท่องหนังสือต่อไปพอลมพัดมาก็เอามือจับถุงไว้ แต่ลมพัดบ่อยถุงขยับจนสมุดภาพคู่พิเศษเปิดตัวออกมา อายลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆ แล้วนั่งลงหยิบสมุดภาพพิเศษพลิกดูหน้าปกก่อน แล้วพลิกข้างใน

อายดูสามสี่หน้าก็ปิดสมุดภาพ เอาหนังสือวางทับหันไปท่องหนังสือต่อ แต่ไม่นานก็หันมาหยิบสมุดภาพออกมาเปิดดูอีก ผมเห็นอายสลับดูหนังสือกับสมุดภาพหลายหน ก็ลงจากต้นมะม่วงย่องเข้าไปหา

ผมย่องเงียบไปถึงเสื่อโดยอายไม่รู้สึก จ้องเพลินภาพของหญิงกำลังดูดจรวดในสมุดภาพพอดี

''อุ้ย..พี่ทอง'' อายตกใจรีบปิดสมุดยัดเข้าใต้กองหนังสือเมื่อผมลงนั่งกอด ''ไม่ต้องกลัวจ๊ะอาย เรื่องธรรมดาชายหญิง เวลาเหงาพี่เปิดสมุดนี้ดูเหมือนกัน'' อายก้มหน้านิ่งไม่ขยับตัวหนี

''เราโตแล้ว อายสิบหกพี่สิบเจ็ด..เดี๋ยวนี้ที่โรงเรียนเค้าสอนให้รู้เพื่อป้องกันตัว.. ไม่ให้ผิดพลาดเวลารักกัน อยู่ด้วยกัน กอดกันหอมกัน..ไม่เสียหายอะไร'' ผมพูดพลางพลิกสมุดภาพให้อายดูต่อไป มือโอบตัวเธอเข้ามาแน่นขึ้น

อายตัวสั่นเมื่อผมสอดมือลอดชายเสื้อเข้าไปถึงยกทรง เธอเอนตัวลงบนเสื่อผมโถมตัวลงทับสองมือดึงชายเสื้อยกขึ้นไปถึงคอก้มลงมาจู จุ๊บเนินนมที่ล้นออกมานอกเนื้อแต่อายดันหน้าผมไว้พูดเสียงสั่น ''พี่ทองรักอายหรือเปล่า''

''รัก..พี่รักอายมาก..อยากจูบอาย..อยากดูดนมอาย..'' เท่านั้นแหละครับอายหมดแรง ปล่อยให้หน้าผมฝังลงไปกลางอกอูมที่เฝ้าใฝ่ฝันจะได้สัมผัสมานานกว่าหกเดือน

อายแอ่นตัวขึ้นทันทีเมื่อผมเอาลิ้นสากๆ ลากผ่านไปตามร่องนม โอ้วสวรรค์..นมของอายช่างอิ่มแน่นเหลือเกินหลอกไปถูกหลอก (2)



ผมซุกปากไซ้ลิ้นไปรอบฐานนมแข็งเป็นไตของอาย เธอหลับตาแน่นสนิทไม่ขัดขวาง ผมเลียเต้าอูมเม้มหัวนมซ้ายด้วยริมปาก ส่วนเต้าขวาใช้นิ้วโป้งกะนิ้วชี้บี้หมุนเบาๆ อายหลังแอ่นเด้งอกขึ้นสู้ ไม่อายเช่นชื่อให้ผมเห็นเลย





อายสู้ปากสู้มือทำให้ผมย่ามใจว่า จะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงบนเสื่อผืนน้อยใต้เงาไม้ยามบ่ายปลายสวน ผมปล่อยมือจากหัวนมสอดผ่านขอบกางเกงยืดเข้าไปวางโปะบนเนินเนื้อเต็มฝ่ามือ เท่านั้นอายก็ครางออกมา
''พี่ทอง..อย่าทำ..อายกลัว'' อายบอกกลัวแต่เนินเนื้อนั้นฉ่ำแฉะจนเปียกมาถึงมือ ผมสอดนิ้วลอดผ่านชั้นในบางๆ เข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ แต่ไม่ทันแทรกนิ้วแหวกร่องเข้าไป...ผมกำลังจะมีความสุข..กำลังจะได้ขึ้น สวรรค์..

''อาย..อายเอ้ย..เพื่อนมาหา'' อาสร้อยตะโกนแว่วมาจากบ้าน แต่มันดังสนั่นเหมือนเสียงฟ้าถล่ม อายเด้งตัวออกไปตอนไหนไม่รู้ เห็นเธอดึงเสื้อในเข้าที่ สวมยืดแล้วเดินสวนออกไปทางบ้านปล่อยให้ผมเก็บหนังสือคนเดียว

อายหายไปนานผมจึงม้วนเสื่อหอบหนังสือเดินตามออกมาเจออายกับเพื่อน อายชายหญิงบนแคร่หน้าบ้านกำลังมุงดูงานฝีมือที่เตรียมส่งครูก่อนสอบ เพื่อนอายไหว้ผมแต่อายเดินเข้าบ้าน ผมก็เดินกลับบ้านย่า

2 วันอายไม่ยอมพบผม ส่วนอาสร้อยมองผมด้วยสายตาแปลกไปผมจึงกลับกรุงเทพฯ เตรียมสอบ แต่ใจยังคิดถึงสัมผัสที่ได้รับจากอายในบ่ายวันนั้นไม่หาย สอบเสร็จแล้วไม่กล้าตามพ่อมาสวนเพราะกลัวสายตาอาสร้อย

''ทองน้องอายต่อว่าทำไมไม่ไปเยี่ยม..ย่าก็ถามถึง'' พ่อเอาส่งข่าวให้ผมดีใจ อายถามหาแสดงว่า ไม่โกรธผมไม่เล่าเรื่องให้อาสร้อยฟัง ฉะนั้นที่เห็นอาสร้อยมองแปลกไปคงคิดเอาเอง...รุ่งขึ้นผมเลยจัดกระเป๋าขึ้นรถ ทัวร์ไปหาย่า

''ทำไมเพิ่งมา...ให้ย่ารอเอ็งตั้งหลายวัน'' ผมรู้สึกเหมือนกันว่า นับแต่มาหาย่าบ่อยๆ ท่านยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าเดิม คงเพราะผมเป็นหลานชายคนเดียวก็ได้ แม้เมื่อก่อนไม่ใกล้ชิดสนิทสนม แต่พอได้เจอะเจอสายเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ

คุยกับย่าจนบ่ายแก่ไม่เห็นอาสร้อยเลย แต่ได้เห็นอายเดินผ่านจึงเลี่ยงจากย่าลงมาพบ ''คิดถึงอายเหลือเกิน'' ผมเล่นบทเจ้าชู้ปากว่ามือถึง อายบิดตัวปล่อยให้กุมมือ ผมคิดในใจเสร็จกูแน่ ''อายลืมพี่ไม่คิดถึงพี่แล้วใช่ไหม''

''พูดเอาได้ข้างเดียวนะพี่ทอง ไม่คิดถึงจะปล่อยให้จับมือยังงี้เหรอ'' อายหน้าแดงเดินไปจูงมอเตอร์ไซด์ ''อายจะไปไหน..พี่ไปด้วย'' ผมโดดขึ้นซ้อนหลังกอดเอวไว้ทันที ''ไม่ได้..อายจะไปบ้านเพื่อน..คืนนี้สองทุ่มพี่ทองไปที่ห้องนะ''

ผมโดดลงจากรถไม่ตื๊อต่อไปเมื่อได้รับการนัดแนะจากอาย ตอนเย็นอาสร้อยมาจัดอาหารให้ย่าเรียกผมนั่งกินด้วย พอค่ำยายเปิดทีวีดูละครกับอาสร้อย ผมอ้างว่านั่งรถเพลียขอตัวไปนอนก่อน ที่จริงเตรียมตัวแอบไปพบอาย

ใกล้เวลานัดทีวีห้องย่ายังเปิดอยู่ คิดว่าอาสร้อยจะนั่งเป็นเพื่อนย่าอย่างเคย ผมปีนลงทางหน้าต่างไปหาอายตามนัดทันที อาสร้อยเปิดไฟหน้าบ้านไว้ จึงแอบเข้าประตูหลังเดินไปถึงห้องอาย ซึ่งมืดสนิทแบบมองไม่เห็นมือตัวเอง

''อาย..อาย..'' ผมทักทายเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวในห้อง ''จุ๊..จุ๊..'' จุ๊ตอบเป็นสัญญาณไม่ให้เสียงดังจึงยืนพิงประตูไม่กล้าเคลื่อนไหว เพราะกลัวโดนข้าวของในห้อง รอจนสายตาชินความมืดเห็นเงาไหวลางๆ จึงเดินเข้ากอดทันที

อายนั่งให้ผมกอดเหมือนบ่ายวันนั้น ผมลูบมือล้วงเข้าอกเสื้อนมอายล้นเต็มมือ แต่ไม่แข็งเป็นไตเช่นได้จับครั้งแรก แต่ตัณหามันรุมจนร้อนผ่าวไม่คิดเป็นอื่นดึงเสื้ออายออกไปทันทีแล้วก้มลงไป ซุกปากกับนม แต่อายดันหัวออกแล้วเอื้อมมือมาดึงกางเกงผมออก พอกางเกงหลุดอายก็คว้าปลาช่อนกำไว้แน่นเหมือนกลัวจะดิ้นหลุด

พูดอย่างไม่อายปลาช่อนตัวนี้พ่อผมเลี้ยงดูอย่างดี ตัวมันอวบยาวมีมัดกล้ามแข็งแรงเหนือกว่าเพื่อนทุกคนในห้อง

โดนอายปล้ำจับปลาช่อนผมก็ดึงตัวเธอลงบนเตียงนอน แต่อายพลิกตัวหลบให้ผมลงไปนอนก่อนแล้วเธอเดินไปทางประตูกดสวิตช์ไฟสว่างจ้า ขึ้นทั่วห้องทันทีทันใด

''อาสร้อย...'' ผมตกใจร้องเสียงดังเมื่อเห็นชัดตาว่าหญิงที่ปล้ำจับปลาช่อนนั้นคืออาสร้อยแม่ของอายหลอกไปถูกหลอก (3)



''ทำไมถึงกล้าขนาดนี้'' ผมกราบอาสร้อยนั่งตัวสั่นด้วยความกลัว ''ผะ...ผะ...ผม..'' ''พูดไม่ออกเลยรึ...'' อาสร้อยนั่งบนขอบโต๊ะที่อายใช้ทำการบ้าน ผมลงจากเตียงคลานไปกอดขา ''ผมผิดไปแล้วกรุณายกโทษให้ผมด้วย''





''ยกโทษให้...'' อาสร้อยทวนคำ ''นายทองกล้านักกล้าเหมือนพี่พัน....'' อาสร้อยเอ่ยชื่อพ่อขึ้นมาแล้วหยุดพูด แต่โยนซองกระดาษน้ำตาลลงตรงหน้า ''ทองคิดร้ายกับน้องอายมาก อาไม่อยากยกโทษให้''

ผมตกใจอีกครั้งเมื่อได้เห็นซองน้ำตาลนั้นข้างในมีสมุดภาพพิเศษหลาย เล่ม ผมแกล้งฝากไว้เพื่อให้อายได้เห็นนั่นเอง  ผมก้มกราบซุกหน้าลงบนหลังเท้าอาสร้อย ''ผมผิดไปแล้วครับ...ผมผิดไปแล้ว''

''รู้มั้ยน้องอายเพิ่งสิบหก...รอให้มันเรียนจบได้ไหม'' เสียงอาสร้อยลดความเข้มลง ''ทองละเท่าไหร่ 17 หรือ 18''  ''สิบเจ็ดครับ''  ''แค่เนียะรู้จักย่องเข้าห้องสาว...'' ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าอายไม่นัด ถึงห้าวขนาดไหนผมก็ไม่กล้า

''อาเห็นกับพ่อของทองจะไม่เอาโทษ แต่ต้องรับปากจะไม่ยุ่งกับอายอีก'' ผมพยักหน้า ''ต้องพูดออกมาว่าจะไม่ทำมิดีมิร้ายกับอายอีก'' ''ผมนายทองสาบานว่าจะไม่ทำอะไรให้น้องอายเสียหายอีก'' ''ไม่ต้องสาบานพูดให้ชัดก็พอ''

อาสร้อยลุกขึ้นแต่ผมไม่ยอมปล่อยขาจึงนั่งต่อ ''จะกอดไว้ทำไม'' ''อายกโทษให้ผมจริงๆ'' ''อยากให้ไปฟ้องพ่อใช่ไหม'' ''เปล่าครับ ไม่อยากให้ใครรู้''  ''ได้...ยกโทษไม่ฟ้องพ่อฟ้องย่า แต่ต้องทำงานชดเชย...ตกลงไหม''

ได้ยินอาสร้อยรับปากหนักแน่นจึงปล่อยมือลุกขึ้นยืนโดยไม่ทันคิดว่า ตอนนั้นผมยังเปลือยช่วงล่างอยู่ ผมนั่งพับเพียบอยู่นานพอยืนก็เซจนเจ้าปลาช่อนแกว่งไปชนไหล่อาสร้อย แกเอามือคีบหัวปลาช่อนของผมออกไป แล้วมีเสียงถอนใจดังพอได้ยิน

''อะไรกัน...ป่านนี้ยังไม่หยุดดิ้น'' ผมอายมากเอาสองมือปิดปลาช่อนหันไปคว้ากางเกงมาสวมข้างๆ อาสร้อยนั่นเอง พอหันกลับมาจึงเห็นอาสร้อยมองอยู่ แม่น้องอายยังปล่อยอกอล่างฉ่างในยกทรงเหมือนจงใจโชว์ผม

มาบ้านย่าสองปีนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นอาสร้อยไม่มีเสื้อแขนยาวปิด ตัว ผมรู้แล้วทำไมอายนมใหญ่ เพราะได้เชื้อจากแม่นั่นเอง ผมตื่นตะลึงกับนมขนาดใหญ่ของอาสร้อย มันใหญ่เกินตัวเหมือนนางเองหนังโป๊ญี่ปุ่น

''จ้องอยู่นั่นแหละ...ไม่เคยเห็นนมหรือไง'' อาสร้อยเสียงดังแต่ยิ้มให้ ''เคยครับ..แต่ไม่เคยเห็นใหญ่เท่านี้เลย'' ''ชอบใหญ่ซิท่า...'' ผมยิ้มบ้าง ''มิน่าเมื่อกี้ถึงได้ขย้ำเอา ขย้ำเอาจนเจ็บไปหมด...ไปอามีเรื่องสำคัญต้องคุยเยอะ''

ผมหงอยขึ้นมาเดินตามไปอีกห้องหนึ่ง ''ถามหน่อย...เคยนอนกับผู้หญิงกี่คนแล้ว'' อาสร้อยเดินไปทำอะไรที่มุมห้องแต่ยังหันมาถาม ''สาม...เอ้ยสี่ครับ'' ''เก่งแล้วใช่ไหม?'' แกถามอีกผมเงียบไม่กล้าบอกว่าเก่ง

''อ้อเก่งแล้ว...งั้นขอถามเรื่องผู้หญิงตอบถูกไม่ต้องทำงาน ตอบผิดห้ามนอนทั้งคืน'' ''คิดให้ดีก่อนตอบนะผู้ใหญ่เค้าสอนให้ถามพวกไก่อ่อนมาแต่โบราณ ..บอกมาซิว่าของผู้หญิงอยู่ตรงไหน'' ถามกล้วยๆ แบบนี้ไม่ต้องคิดตอบทันที

''ข้างหน้าครับ'' ''แน่ใจ...'' ''แน่ครับผมเห็นทุกคนอยู่ข้างหน้า'' ''ถ้าอยู่ข้างหลังต้องอดนอนทั้งคืนนะ'' ผมพยักหน้าอาสร้อยก็ให้ผมหลับตา ''เอาลืมตามองดูซิว่าอยู่ข้างหน้าหรือเปล่า''

ผมลืมตาขึ้นมาเห็นอาสร้อยยืนข้างหน้าถลกผ้าถุงขึ้นมาเหน็บเอว สองขาอาสร้อยเนียนเรียบหนีบติดกันจนผมมองเห็นแต่พงหญ้าสีดำนิดหน่อย แต่ไม่เห็นของที่ถามถึง ''เป็นไง...มีไหม'' ผมงุนงงเลยสั่นหัวอาสร้อยให้หลับตาอีก

ได้สัญญาณลืมตา คราวนี้อาสร้อยก้มหัวหันก้นให้...โอ้โห..กลีบเนื้อของอาสร้อยสีแดงระเรื่อ เป็นมันวาวใหญ่มากขนาดต้องใช้สองฝ่ามือปิดจึงจะมิดอยู่ในง่ามก้น ผมเพิ่งเห็นของผู้หญิงคนแรกที่ย้อยไปติดก้นจนเหมือนมันอยู่ข้างหลังจริงๆ

''ทำไมของอาอยู่ข้างหลัง'' ผมงุนงงไม่คิดถึงเรื่องบนเตียงเลย ''แล้วแฟนละ...ทำยังไง'' ผมถามด้วยอยากรู้ ''อยากรู้จริงๆ...'' อาสร้อยยิ้มมีนัย ผมไม่คิดเป็นเรื่องอื่นเลยตอบเสียงหนักแน่น ''ครับผมอยากรู้''

''ถอดกางเกงออกก่อน แล้วจะบอกให้''
หลอกไปถูกหลอก (4)



อาสร้อยให้ถอดกางเกงแต่ไม่ทันขยับแกก็จัดการรูดกางเกงผมออกสิ้น ปลาช่อนตัวอวบเข้าไปอยู่ในมือ แกพลิกมันไปมาแล้วถลกหนังดำๆ รูดไปชนรอยคอด แกยิ้มให้แล้วเอาลิ้นไปแตะหัวปลาช่อนที่โผล่มาแดงแจ๋ปากพึมพำ



''เชื้อพ่อแรงจริงๆ ทั้งอวบทั้งยาว...'' เสียงพึมพัมของอาสร้อยไม่ดังมากผมจับใจความไม่ชัดแต่น่าจะทำนองนี้
''ฟัง ให้ดีนะ...อาบอกหนเดียวเท่านั้น'' อาสร้อยเอ่ยหลังเลียหัวปลาจนทั่ว ลิ้นอาสร้อยทำให้ปลาช่อนดิ้นพล่านตัวแข็งปั๋ง แล้วแกขึ้นไปนอนคว่ำบนเตียงหันมาพูด ''ฟังให้ดี...'' ได้ยินชัดแค่นั้น...คำต่อไปไม่ได้ยินเลยผมจึงถามซ้ำ
''บอก แล้วให้ตั้งใจฟัง...เอ้า...เอาหูมาใกล้ๆ'' อาสร้อยพลิกหน้าหนี ปล่อยก้นเปลือยงามงอนให้เห็นเต็มๆ ใจผมอยากพลิกแกนอนหงาย เอาปลาช่อนยัดใส่ข้องของแก แต่ยังกลัวนอนหงายจะหาข้องไม่เจอจึงเขยิบไปทาบแกทั้งตัว
''ทำ ไงครับอา...'' ''เบียดๆ...เข้ามาอีกนิด'' อาสร้อยบอก ผมเขยิบตามแต่แกยังร้อง...อีกนิด...อีกนิด...และอีกนิด...กว่าผมจะขยับได้ ที่ก็รู้สึกว่า ปลาช่อนได้มุดเข้าไปในก้นอาสร้อยกว่าครึ่งตัวแล้ว
หนุ่ม กระทงอย่างผมโดนทีเด็ดแม่ม่ายแบบนี้ไม่ต้องคิดอย่างอื่นนอกจากหาทางยัดปลา ช่อนเข้าไปให้มิดหมดตัว แต่ท่านอนทับข้างหลังนี่มันไม่ค่อยถนัด ผมเขยิบให้ถนัด อาสร้อยรู้ใจเปลี่ยนเป็นนอนคว่ำคุกเข่า ให้ผมขึ้นนั่งจับเอวดันปลาช่อนมุดเข้าไปมิดตัว
เรื่องบน เตียงชายหญิงนั้นไม่ต้องสั่งต้องสอน เมื่อได้จังหวะก็สามารถซอยใส่กัน...ป๊าบๆ ป๊าบๆ ดังสนั่นห้องกระเทือนแทบพังทลาย ผมซอยก้นอาสร้อยถี่ยิบด้วยความมันอีกแบบหนึ่งเพราะไม่เคยนอนกับใครท่านี้มา ก่อน
''หยุดก่อนทอง...'' กำลังซอยมันๆ อาสร้อยร้องให้หยุดซะงั้น ''กลัวทองเหนื่อย นอนเฉยๆ อาจะทำเอง''
อา สร้อยขึ้นมานั่งทับเอาข้องครอบหัวปลาช่อนให้มันมุดเข้าไปจนมิด พอได้จังหวะแกเริ่มซอยช้าๆ ก่อนจะเร่งเร็วกระแทกใส่ถี่ยิบผมเสียวซ่านมากครางออกมา
''เป็นไร ไปทอง...'' ''เสียว...เสียวครับ'' อาสร้อยหยุดซอยกดข้องครอบปลาช่อนแน่นแล้วโยกวนหมุนซ้ายขวา ''จับนมอาด้วย...จับนมอา'' ผมเอื้อมมือไปขย้ำนมแกทั้งสองข้าง นมอาสร้อยใหญ่กว่าอายแต่นิ่มย้อยกว่ามาก
ผมบีบเคล้นนมอา สร้อยไม่นานแกก็ครางเหมือนกัน ''อากำลังจะมีความสุข...ทองเกือบมีหรือยัง'' ''เกือบครับ...ผมเกือบแล้ว'' พออาสร้อยว่ากำลังจะมีความสุข ผมก็เกิดเสียวซ่านมากจนทนไม่ไหวความสุขหลั่งทะลักเข้าใส่แก
''โอ้ ว...ทองจ๋า...ปลาช่อนเธอดิ้นแรงให้อาสุดเสียว...ทองจ๋า...ทองจ๋า'' อาสร้อยบดสะโพกหมุนวนเหมือนโม่แป้งไม่หยุดยิ่งทำให้ปลาช่อนเวียนหัวดิ้น พล่านอาเจียนออกมาไม่หมดไม่สิ้น แม้อาสร้อยฟุบลงมาบนตัวแล้วมันก็ยังดิ้นต่อ
''อา มีความสุขมาก...ปลาช่อนเธอทั้งอวบทั้งยาวเกินตัว...จนอาหลงแล้วนะ ทองมีความสุขมั้ย'' ''มีครับ...ผมมีความสุขมากของอาสร้อยแน่นดี...'' ''ไม่ต้องมาพูดให้คนแก่หลงดีใจ...อีกหน่อยไปเจอสาวๆ จะลืมอีแก่คนนี้...''
อา สร้อยไปอาบน้ำก่อนแล้วผม เมื่อเสร็จแกก็นวดแขนขาให้จนผมแทบหลับเพราะสบายมาก แต่โดนแกปลุกปลาช่อนขึ้นมาสนุกต่อรอบสอง คราวนี้แกให้ผมดูดนมก่อนจะร่วมท่าเสพสม แล้วประคองผมไปเข้าห้องน้ำ
คืน นั้นผมสนุกสนานกับอาสร้อยโดยไม่ได้หลับเลยจนประมาณตีสี่ แกเดินมาส่งที่เรือนย่า แต่ถึงเตียงไม้ใต้ต้นมะม่วง แกควักปลาช่อนออกมาดูดปลุกมันตื่นแล้วยืนพิงเตียงไม้ให้ผมขย่มสั่งลา ทำเอาผมหลับเป็นตายจนย่ามาเรียก
ผมระเริงโลกีย์กับอาสร้อย เกือบเดือนทั้งกลางวันกลางคืน ไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ พร้อมพ่อ ส่วนน้องอายอาสร้อยบอกย่าว่าไปพักกับน้า ย่าว่าดีไม่รู้ว่ากันผมหรือเปล่า แต่อาสร้อยคนเดียวก็ให้ความสุขจนบางวันผมต้องขอหยุดพัก
''พ่อ...อาสร้อยอยากให้พ่อไปค้าง'' พ่อมองเมื่อได้ยินคำพูด ''ทอง ปีนี้เต็มสิบเจ็ดแล้วใช่ไหม'' ผมพยักหน้า
''เป็น ผู้ชายเต็มตัวหรือยัง...'' ผมสงสัย ''ไม่ต้องอาย บอกพ่อตรงๆ ทองนอนกับผู้หญิงกี่คน'' ผมชูห้านิ้วพ่อก็หัวเราะ ''พ่ออายุเท่าทองเพิ่งได้ผู้หญิงคนเดียว...จำไว้นะลูก...ต้องเรียนให้จบก่อน มีเมีย...พ่อขอเตือนสติไว้...จะมีหญิงกี่คนพ่อไม่ว่าแต่ต้องนึกถึงอนาคตให้ ดี''
ผมเอาคำพูดของพ่อมาผสมกับเรื่องเก่าๆ ที่เคยได้ยินในวัยเด็กพอจะลำดับเรื่องได้ว่าทำไมพ่อต้องหอบแม่มาอยู่ กรุงเทพฯ ทั้งที่บ้านย่าแสนสบาย ตอนนี้ผมนึกได้แล้วว่าแม่หมายถึงใครตอนทะเลาะกับพ่อ
''พี่พันจะกลับไปกกสร้อยอีกก็ไป ฉันอยู่คนเดียวเลี้ยงทองได้ ถ้าพี่ออกจากบ้านไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก''
อา สร้อยร้อนร่านเต็มไปด้วยความต้องการเช่นนี้จึงไม่แปลกที่ตอนพ่อหนุ่มๆ จะแอบไปกุ๊กกิ๊กกันลับหลังแม่ และเมื่อมีแม่เป็นสาวร้อนจึงไม่แปลกที่อายเป็นสาวไฟแรงสูงจุดปุ๊บติดปั๊บ
วัน นั้นคงเป็นแผนอาสร้อยให้อายหลอกผมไปขึ้นเตียง ถึงจะนึกกลัวสองแม่ลูก เมื่อมีโอกาสผมจะแอบมากกอาสร้อย จนได้เปิดข้องปลาน้องอายสมหวัง
สองแม่ลูกมีความสุขได้เล่นปลาช่อนของผมโดยไม่ข่มขืนบังคับใจ ทุกคนล้วนเป็นสุขผมจึงสุขด้วยแม้จะรู้ตัวว่าถูกหลอก

  

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

สี่สาวเฉลยวิธีเล้าโลมแม่สาวไวไฟ

สี่สาวเฉลยวิธีเล้าโลมแม่สาวไวไฟ!!! GIRLS ON SOF

 


จุติพร พงษ์คุณ
(เมจิ) 23 ปี พริตตี้ แดนเซอร์
ฐิติวรรณ สุวรรณ (น้ำ) 22 ปี นักศึกษา
ณัทริกา เบญจมาธิกุล (จิ๊ฟ) 24 ปี ธุรกิจส่วนตัว
ภิตินันท์ วุฒิอริยะเลิศ (น้ำหวาน) 23 ปี พีอาร์
________________________________

ฉบับ นี้เราได้สี่สาวจากสี่อาชีพมาชี้ทางสว่างให้หนุ่มๆ ได้รู้ถึงพฤติกรรมต้องห้ามยามออกเดทและอยู่บนเตียง ความสำคัญของการเล้าโลม วิธีไหนโดนใจสุดๆ และจะทำยังไงไม่ให้เป็นน้ำพริกถ้วยเก่าของสาวๆ
________________________________

เดทแรกผู้ชายควรจะทำยังไงให้ผู้หญิงประทับใจ?น้ำหวาน : ต้องร่าเริง คุยสนุก อยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัดใจ แล้วก็ต้องเทคแคร์ เป็นสุภาพบุรุษแล้วก็ตามใจ
จิ๊ฟ : ไม่ ต้องมีฟอร์มมาก ไม่ต้องเก๊ก ดูเป็นสุภาพบุรุษหน่อย ไม่ต้องมาแบบหวานจ๋า ตอนแรกมาดีมากอย่างโน้นอย่างนี้ หลังๆ มาชักแผ่ว ขอแบบเสมอต้นเสมอปลายดีกว่า
เมจิ : ต้องเทคแคร์เต็มที่ แล้วก็ต้องฮาๆ หน่อย สนุกๆ ลุยๆ ไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องฟอร์ม
น้ำ : ยิ้มให้ คุยด้วย คุยสนุก พาทานข้าวดูหนังครบเซ็ท
พฤติกรรมแบบไหนที่คุณรับไม่ได้ในเดทแรก?
น้ำหวาน : ให้เราเลี้ยงค่าอาหาร จะรับไม่ได้ แชร์ก็ไม่ได้นะ เดทแรกเขาต้องจ่าย มันจะดูเหมือนเขาดูแลเราได้
จิ๊ฟ : กินมูมมาม แล้วก็กินเสียงดัง
เมจิ : พูดมาก ขี้โม้ ขี้อวด ไม่ต้องอวด อยู่เฉยๆ ดีกว่า นิ่งๆ แต่ชอบแบบฮาๆ นะ
น้ำ : คำพูดที่ตรงเกินไป อย่างคุยแล้วเหมือนเสียงจะสวยเน้อะ เจอตัวจริงแล้วไม่สวยเลย รับไม่ได้ ทำให้เราเสีย Self
ก่อนที่จะออกเดทคุณเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
น้ำหวาน : แต่งตัวปกติ เรียบๆ ง่าย สบายๆ ไม่เตรียมตัวอะไรมากมาย
จิ๊ฟ : เสื้อ ผ้า หน้าผม สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ให้เราดูดี แล้วก็ดูว่าบุคลิกคนที่เราจะไปเดทด้วยเป็นอย่างไร แล้วก็ปรับการแต่งตัวของเราเข้าหาเขา แต่ยังคงความเป็นตัวเรา ไม่เปลี่ยน เพราะเราก็เป็นตัวเรา รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ตัวเราเป็นอย่างนี้
เมจิ : เหมือนกัน ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย ปกติเหมือนเราจะไปข้างนอก อาจจะพิเศษขึ้นมานิดนึง จากที่ไม่เคยทำผมก็ทำหน่อย แต่ก็ต้องดูกาลเทศะด้วย ถ้าเขาเซอร์ก็ต้องตามเขาหน่อย ถ้าเป็นหนุ่มนักธุรกิจมา ก็ต้องเนี้ยบนิดนึง
น้ำ : ทำผม แต่งหน้า อาจจะซื้อเสื้อใหม่นิดนึงให้ดูดี
การที่คุณให้ผู้ชายจับมือถือแขน ถือว่าเป็นการยอมรับให้เขาเป็นแฟนหรือเปล่า?น้ำหวาน : ยัง ไม่ยอมรับเป็นแฟน ถ้าจะยอมรับเราต้องดูนิสัยกันไปนานๆ ก่อน เดทแรกก็ยังไม่ยอมให้จับมือ ยังไม่รู้สึกอะไรด้วย คือ ถ้าคนที่เรายอมให้จับมือด้วยก็ต้องพิเศษขึ้นมาหน่อย
จิ๊ฟ : ยังค่ะ ยัง มันเกิดจากความรู้สึก มันตัดสินไม่ได้ด้วยการจับมือหรอก
เมจิ : ยังไม่ถือว่าเป็นแฟน แต่ก็รู้สึกดีด้วย
น้ำ : ยังเหมือนกัน
คุณเป็นสาวไวไฟไหม?
น้ำหวาน : ก็อาจจะยิ้มให้ ถ้าไปเจอในที่เที่ยว ที่ผับ ต้องมีฟอร์มจะไม่เข้าไปจีบหรือเข้าไปคุยก่อน
จิ๊ฟ : เจอผู้ชายถูกใจยิ้มให้เลย แต่ก็มีฟอร์ม ไม่ถึงกับวิ่งเข้าไปหา แอบดู หรือไม่ก็สะกิดให้เพื่อนสนิทดูว่าเนี่ยน่ารัก
เมจิ : ถ้าชอบก็จะแอบมอง ไม่กล้า อาจจะมียิ้มๆ ให้นิดนึง สบตาหน่อย แต่จะไม่เข้าไปหาก่อนแน่นอน
น้ำ : ใช้สายตามองไปรอบๆ ว่าหล่อไหม ส่วนมากจะใช้สายตามากกว่า แล้วก็ยิ้ม
คุณจะออกเดทด้วยกี่ครั้งก่อนที่จะยอมมีอะไรด้วย?น้ำหวาน : ต้องดูก่อนว่าเข้ากับเรา หรือคลิกกันได้มากแค่ไหน ไม่มีกำหนดเวลา
จิ๊ฟ : แล้วแต่สถานการณ์ แต่ถ้าคิดว่าจะออกเดทหรือให้เป็นแฟนก็ต้องมั่นใจแล้ว
เมจิ : มันไม่มีกฎเกณฑ์หรอก ถ้าคนนี้ชอบก็อาจจะไม่นาน แต่ก็ไม่ใช่ One Night Stand นะ เพราะแบบนั้นมันดูตัวเองไร้ค่ามากเลย ถ้าชอบจริงๆ เร็วสุดก็ 2 อาทิตย์
น้ำ : ไม่ฟิกซ์เหมือนกันนะว่ากี่ครั้ง แต่ที่เร็วสุดก็น่าจะประมาณอาทิตย์หนึ่ง ที่ชอบจริงๆ แล้วก็คบกันยาวๆ
คุณเห็นด้วยไหมที่ผู้ชายไทยไม่รู้จักการเล้าโลม หรือไม่ก็คิดถึงแต่ตัวเองเป็นใหญ่ เสร็จแล้วก็ไป?
น้ำหวาน : ไม่นะ เพราะที่เจอมาก็เล้าโลมก่อนทุกคน
จิ๊ฟ : แล้ว แต่คนนะ แต่ถ้ารีบๆ ทำเสร็จแล้วก็ไปก็จบดีกว่า เห็นเราเป็นตัวอะไร เหมือนมาระบายอารมณ์ เอาแต่ตัวเองสนุก มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนอยู่แล้ว คือ ถ้าการเริ่มต้นคุณไปได้ไม่ดีก็นะ
เมจิ : ไม่เห็นด้วย มันก็แล้วแต่คน
น้ำ : แฟนกันต้องเทคแคร์ซึ่งกันและกัน ต้องเห็นใจ คุณต้องการ ฉันต้องการ แล้วมันก็ต้องไปด้วยกัน
งั้นคุณให้ความสำคัญกับการเล้าโลมแค่ไหน?น้ำหวาน : ก็ให้ความสำคัญมาก ถ้าผู้ชายไม่ให้ความสำคัญกับตรงนี้เราก็จะไม่แฮปปี้ในการที่จะทำอะไรร่วมกัน
จิ๊ฟ : มาก วัดไม่ได้ว่ามากแค่ไหน แต่รู้ว่ามาก ผู้หญิงผู้ชายเวลามีอะไรกันมันต้องพอใจกันทั้งสองฝ่าย ถ้ามันไม่มากพอก็เหมือนไปด้วยกันไม่ได้
เมจิ : พอสมควรค่ะ เพราะถ้าพูดถึงจุดเริ่มของการมีเซ็กซ์มันก็น่าจะเริ่มมาจากการเล้าโลม แต่ก็ไม่ถึงขนาดกับนานเกิ๊น นั่นก็นะ เอาพอดีๆ
น้ำ : 50:50 ค่ะ ให้มันแบบซึ่งกันและกัน พอใจ ณ จุดนี้ล่ะ อ่ะโอเค ไปด้วยกันเลย
ช่วยบอกหนุ่มๆ หน่อยว่า เขาต้องเล้าโลมแบบไหนผู้หญิงถึงจะประทับใจ?
น้ำหวาน : ขอเป็นบรรยากาศดีๆ ก่อนแล้วกัน เย็นๆ แล้วก็อยากได้สัมผัสที่ทะนุถนอม ที่สำคัญ คือ ต้องจูบก่อน
จิ๊ฟ : เริ่มแรกก็ต้องมีโอบกอด ตาสบตากันก่อนแล้วพอเคลิ้มค่อยไปที่แก้ม ที่ปาก แล้วก็ไปเรื่อยๆ
เมจิ : น่าจะเริ่มตั้งแต่ทานข้าว โรแมนติก ดื่มนิดหนึ่ง แล้วก็ทำให้เหมือนเกิดจากความรักจริงๆ
น้ำ : สำคัญมากเลย คือ จูบ ปากต้องสะอาด จะประทับใจมาก
การมีอะไรกันตอนที่สติครบสมบูรณ์กับตอนที่ร่างกายมีแอลกอฮอล์มันแตกต่างกันยังไง?
น้ำหวาน : ตอนที่ดื่มเหล้าความกล้ามันจะออกมามากกว่า ตอนที่ไม่ดื่มเหล้าเราเป็นผู้หญิงก็จะไม่ค่อยกล้าใช่ไหม แต่พอดื่มเข้าไปอารมณ์มันจะออกมา คือ เราจะไม่เก็บน่ะ
จิ๊ฟ : แตกต่างนะ แต่ก็อยู่ที่อารมณ์ร่วมของคนสองคนด้วย ถ้ามีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็จะซาบซ่า เป็นแรงผลักในร่างกาย ร้อนแล้วก็ร้อนอีก
เมจิ : ถ้ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายก็จะกล้ามากขึ้น
น้ำ : ตอนมีแอลกอฮอล์ในร่างกายแตกต่างจากตอนที่ไม่มี เพราะทั้งคู่จะอึดขึ้น หน้าก็จะซีเมนต์ขึ้น ให้ทำอะไรก็ได้หมด
แล้วเวลาที่คุณไม่ต้องการจะมีอะไร คุณจะปฏิเสธเขาอย่างไร?
น้ำหวาน : ก็ จะบอกตรงๆ ไปเลย เพราะถ้าเป็นแฟนกันก็จะรู้นิสัยกันอยู่แล้วไง พูดอะไรไปเขาจะรู้ความหมายของเราอยู่แล้ว ไม่ต้องอ้อม ไม่ต้องแปลแล้ว เรารู้กัน แต่ก็จะปฏิเสธดีๆ
จิ๊ฟ : อ้อมๆ นิดหนึ่ง ทำให้เรามีคุณค่า เดี๋ยวเขาจะไปช่วยตัวเองหรือไปหาใครซะ ก็ต้องมีวิธีอย่างเพลีย ไม่สบาย จะให้บอกว่าไม่มีอารมณ์เหรอ จบเลยนะ ถ้าสมมติว่าเราสะกิดแล้วเขาบอกว่าไม่มีอารมณ์แล้วเราจะรู้สึกยังไง นึกถึงใจเขาใจเรา
เมจิ : บอกเหนื่อย อ้อมๆ แต่ก็ไม่ได้อ้อมเยอะมาก แล้วก็หลับโชว์ไปเลย แล้วเขาก็จะรู้ของเขาเอง
น้ำ : ก็บอกตรงๆ เลยว่า ไม่มีอารมณ์น่ะ ก็ต่างคนต่างนอน จบ
ในขณะที่อยู่บนเตียงผู้ชายน่าเบื่อที่สุดตอนไหน?
น้ำหวาน : เสร็จก่อนเรา แล้วเรายังไม่เสร็จ แล้วก็ไม่แคร์เราเลย น่าจะให้เราเสร็จก่อน
จิ๊ฟ : ทำ ยังไงก็ได้ให้ฉันสมหวังเหมือนกัน ก่อนหรือหลังไม่สำคัญ แต่ว่ายังไงก็ต้องมีส่วนร่วมกัน ช่วยรับผิดชอบด้วย อย่ามาทิ้งให้ฉันค้างอยู่อย่างนี้นะ
เมจิ : ใช่ เห็นด้วย
น้ำ : ผู้ชายเสร็จเร็ว ไม่เกิน 5 นาที เนี่ย เป็นอะไรที่เบื่อมากเลยนะ เบื่อที่สุดเลย
ผู้หญิงมักจะจำแฟนคนแรกได้ คุณยังจำได้ไหม จำได้เพราะอะไร?
น้ำหวาน : ที่จำได้เพราะว่าเขาเป็นแฟนคนแรก แล้วก็เป็นเซ็กซ์ครั้งแรกของเรา แต่คบกันได้ไม่กี่เดือนก็เลิกกัน
จิ๊ฟ : จำ ได้ๆ จำความดีของเขาได้ ข้อเสียนี่ตัดไปเลย เลิกกันไปแต่ทุกวันนี้ก็เป็นเพื่อนกัน คุยกันได้ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว ก็พอรู้ๆ เรื่องราวเขาบ้าง
เมจิ : จำความดีของเขาได้ เขาดีมาก เทคแคร์ดี เขารักเรามากๆๆ ที่เลิกกันเพราะว่าสงสารเขา กลัวเขาเหนื่อย แล้วเมจิก็ขี้ทุกอย่าง ขี้โมโห ขี้วีน มีทุกอย่าง จนวันหนึ่งเริ่มโตขึ้น ก็เลยปล่อยเขาไปดีกว่า ดีเกิน
น้ำ : จำแม่นมาก เพราะเขาดูแลเราดีมากๆ ดีที่สุด เพราะตามใจทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ได้ทำ เขาให้มีกิ๊กได้
แล้วเซ็กซ์ครั้งแรกล่ะ?
น้ำหวาน : จำได้ค่ะ เพราะเขาเป็นแรกที่เราให้เขา
จิ๊ฟ : เหมือนเขาก็เป็นครูที่สอนเราด้วย หลังๆ มาต่อไปเราจะได้รู้ข้อบกพร่องของเราจะได้นำไปปรับปรุงกับคนที่จะเข้ามาในชีวิตของเรา
เมจิ : จำได้ว่าครั้งแรกมีแอลกอฮอล์ด้วย จำได้ว่าวันนั้นดริงค์ด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็คบกันมาสักพักหนึ่งแล้ว
น้ำ : จำได้ เพราะว่าเราไม่เป็นงานเลย วันนี้พอนึกย้อนไปแล้วตลกน่ะ ทำไม่เป็นเลย จำได้แม่นมากๆ
ถ้าเซ็กซ์เปรียบเหมือนอาหาร คุณคิดว่าน่าจะเป็นอาหารประเภทไหน?
น้ำหวาน : เป็นขนมหวาน เป็นช็อคโกแลต ชอบกิน เพราะหลังจากอาหารคาวแล้วก็ต้องตามด้วยอาหารหวาน ถ้าวันไหนไม่ได้กินก็จะรู้สึกหงุดหงิด
จิ๊ฟ : อาหารไทยค่ะ ต้มยำกุ้ง เผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน ทุกรสชาติ คือ ไม่ชอบอะไรที่จืดๆ ซ้ำซาก เป็นคนที่ชอบอะไรที่ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
เมจิ : เหมือนเป็นอาหารจานโปรด เป็นเมนูประจำ คือ ถ้าหาอะไรกินไม่ได้ก็จะกินอันนี้ สั่งอันนี้อย่างเดียว
น้ำ : พวกซีฟู้ด ที่มีหลายๆ อย่างรวมกัน มันไม่เบื่อดีน่ะ
คุณเคยมีประสบการณ์แบบเรา 3 คนไหม?
น้ำหวาน : เคยดูจากที่เพื่อนส่งให้ แต่ไม่ขอลอง มันวางตัวไม่ถูกเวลาอยู่ตรงนั้น
จิ๊ฟ : ไม่เคยมี แล้วก็ไม่คิดที่จะลองด้วย แต่ถ้าให้เลือกก็ต้องชายสองหญิงหนึ่ง
เมจิ : เคย ดูตามสื่อทุกอย่างที่สามารถดูได้ ดูมาหมดแล้ว แต่มันไม่ใช่น่ะ 3 คน มันแปลกๆเหมือนกับเขาไม่ได้คิดอะไรแล้ว เราคงไม่ยอมให้แฟนของเราไปนอนกับคนอื่นหรอก รับไม่ได้
น้ำ : ก็อยากลองนะ แต่ต้องเป็นคนอื่นเลย คือ ไม่รู้จักกันเลย แล้วก็ต้องเป็นชายสอง เพราะเราอยากเป็นนางเอกคนเดียวไง
เซ็กซ์ในจินตนาการแบบไหนที่ชาตินี้คุณไม่มีวันลองเด็ดขาด?
น้ำหวาน : ไม่ลองกับผู้หญิงด้วยกัน ไม่เคย แล้วก็ไม่กล้าด้วย
จิ๊ฟ : แบบโรคจิตน่ะ หยดน้ำตาเทียนไรเงี่ย ออกแนวซาดิสม์ แบบนี้รับไม่ได้จริงๆ
เมจิ : พวกล็อกแขน ล็อกคา ไม่เอาค่ะ ไม่ชอบ แล้วก็จัดสถานที่เป็นเวทีมวย เป็นป่าเป็นไรขอแบบปกติดีกว่า
น้ำ : คนกับสัตว์เนี่ยไม่เอานะ อย่างอื่นได้หมด
คุณคิดว่าอะไรในตัวผู้ชายที่เป็นแรงดึงดูดทางเพศ?น้ำหวาน : ชอบกลิ่นน้ำหอมที่ผู้ชายใส่ ขาวๆ ดูดีหน่อยแล้วก็กลิ่นโดนๆ บางทีมีเดินตามเลยนะ ตามไปดม รู้สึกว่ามีเสน่ห์มาก
จิ๊ฟ : รูป ร่าง หน้าตา ต้องมีซิกซ์แพคบ้าง ไม่ใช่พุงพลุ้ย กระดืบๆ เหมือนหนอนด้น ไม่ไหวนะ ถึงจะเป็นแฟนกันแล้วก็รักษาหุ่นให้เฟิมนิดหนึ่ง ไม่ต้องเป็นภารดรก็ได้ ไม่ต้องกล้ามเป็นมัดๆ หรือใหญ่ขนาดนั้น
เมจิ : ชอบการแต่งตัว ต้องดูดี สะอาดสอ้าน ดูแล้วเป็นคนที่รู้สึกว่าดูแลตัวเอง เนี้ยบๆ หน่อย
น้ำ : ชอบที่หน้าตา แนวออกเกย์ แต่งตัวเนี้ยบทุกอย่าง
คุณจะใช้มุกไหนในการช่วยผู้ชายไปต่อที่ห้อง?
น้ำหวาน : รถเสีย สตาร์ทไม่ติด รบกวนให้ช่วยดูรถหน่อย แล้วก็ขอให้เขาไปส่งที่บ้านได้ไหม เพราะนั่งแท็กซี่ไม่ได้
จิ๊ฟ : มีฟอร์มนิดหนึ่ง ถามว่าวันนี้ไปไหนต่อ มีที่ต่อไหมอะไรยังไง เขาก็ต้องย้อนถามอยู่แล้ว แล้วก็ชวนไปต่อ ก็บอกว่ามีเพื่อนเราด้วย คนโน้นคนนี้มีฟอร์มนิดหนึ่ง จากนั้นค่อยว่ากันอีกที
เมจิ : ก็ต้องเนียนๆ หน่อย ฮาๆ อ้าวเมายังล่ะ ไปต่อด้วยกันดิ่ เดี๋ยวเพื่อนก็ไปกัน แต่เพื่อนก็อยู่ไม่นาน
น้ำ : มุกเมา ไปส่งหน่อยได้ไหม เคยทำแล้ว ได้ผล
ผู้หญิงจะมีอาการเบื่อนำพริกถ้วยเก่าไหม เขาต้องทำยังไงคุณถึงจะไม่เบื่อ?
น้ำหวาน : ได้สิ ถ้าเขาไม่ดีจริงๆ แล้วก็แก้ไขไม่ได้แล้ว ก็มองหาคนใหม่
จิ๊ฟ : ได้ ก็ต้องหาอะไรตื่นเต้น ก็อย่างที่บอกว่าไม่ชอบอะไรที่มันจำเจ เป็นคนชอบสนุก มันต้องหาอะไรที่ทำให้เราตื่นเต้น มีเซอร์ไพรส์กันบ้าง ตรงนี้สำคัญ ต้องให้โอกาสปรับก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายแล้วนะ ถ้าไม่ปรับก็คือไป ไม่มีใครจะทนอยู่กับความจำเจ หรือสิ่งเดิมๆ ได้หรอก
เมจิ : ใช่ ถ้าเบื่อจริงๆ ทนไม่ไหวแล้วก็เลิก แก้ไปก็เหมือนเดิม เขาก็คือคนเดิม ถ้าเรามีทางเลือกที่ดีกว่าก็น่าจะดี
น้ำ : น้ำก็หาใหม่ เลิกเลย เป็นคนขี้เบื่ออยู่แล้ว ที่คบนานที่สุดก็ 2 ปีนี่นานสุดแล้ว

บัณฑิตติดเซ็กซ์

บัณฑิตติดเซ็กซ์
04 พฤษภาคม 2009 18:15 น.  View : 28,725  Post : 4


 



ช่วงที่ฉันเรียนอยู่มหา’ลัย ฉันมีสัมพันธ์สวาทกับหนุ่มนักกีฬารูปหล่อเร้าใจคนหนึ่ง เขามีแฟนที่บ้านเกิดอยู่แล้ว ซึ่งมักจะมาเยี่ยมเยียนเขาอยู่เนืองๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอไม่อยู่ ฉันก็จะฉวยโอกาสย่องเข้าหาเขาตลอด ฉันยังคงนัวเนียกับเขาไม่หยุดหย่อน แม้เราจะย่างเข้าสู่ปี 3 และปีสุดท้ายแล้วก็ตาม ฉันไม่ได้ตั้งตารอคอยวันรับปริญญาเลยสักนิด เพราะมันเป็นวันที่ฉันจะต้องเห็นเขาอยู่กับครอบครัวและแฟนของเขานั่นเอง
ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง ฉันต้องทนเห็นภาพบาดตาที่เขากับเธอเกาะติดกันแจจนได้ ทันทีที่ฉันเห็นเขายืนอยู่ตามลำพัง ฉันก็ถลาเข้าไปหาเขาทันที พร้อมกับจูงมือตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ เขารู้อยู่แล้วแหละว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะเขาก็เดินตามฉันต้อยๆ โดยที่ไม่ปริปากพร่ำบ่นอะไรเลยสักคำ
เราพากันมุดเข้าห้องสุขา และแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉันก็ดันเขาลงไปนั่งแล้วจึงโผขึ้นคร่อมควบโขยกเสากระโดงของเขาอย่างบ้าคลั่ง ฉันอยากจะให้เขาพุ่งกระฉูดอย่างชนิดที่ลืมฉันไม่ลงไปเลยทีเดียว แถมยังร้องขอให้เขาหลั่งน้ำรักทะลักใส่ตัวฉันไปเลยอีกต่างหากตลอดเวลาที่เรา ร่วมรักกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฉันสะบัดผมอย่างลืมตัวด้วยความสุขสันต์หรรษาอย่างสุดขีด จนกระทั่งเขาฉีดกระฉูดครั้งรุนแรงออกมาจนได้ในที่สุด
ฉันหวนกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันนั้นตอนที่กำลังเข้าคิวคืนชุดครุย แต่แล้วฉันก็ต้องยิ้มไม่ออก เพราะเขากำลังคืนชุดครุย ทั้งๆ ที่มีรอยเปื้อนเป็นดวงๆ อยู่ตรงหน้าขา   

คนข้างห้อง 1

คนข้างห้อง(1)


ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่มีชีวิตโลดโผนสนุกสนานตั้งแต่วัยเรียน พอเรียนจบการศึกษา พยายามหางานประจำทำ แต่เพราะดิฉันเป็นคนฟุ้งเฟ้อ เลือกงานเลือกเงิน ทำงานได้ไม่เท่าไหร่ก็ออกมาหาความสบาย สุดท้ายก็กลายเป็นสาวนั่งดริ๊งก์



ชีวิตสาวนั่งดริ๊งก์ใช่จะสุขนัก รายได้ไม่แน่ไม่นอน ต้องคอยเอาอกเอาใจแขก จนกระทั่งวันหนึ่งมีหนุ่มนักศึกษาลูกคนรวยมาหลงใหลดิฉัน เขาชื่อว่า เอ   เขาดึงดิฉันออกจากชีวิตคนกลางคืนมาเช่าคอนโดเกรดเอ โดยอาสาเป็นคนออกค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนให้

เพื่อนดิฉันหลายคนปรารถว่า ดิฉันโชคดีที่จับเด็กได้ ดิฉันก็ยอมรับว่าตัวเองมีโชค แต่พอคบกับเขาไปได้สักพัก ดิฉันไม่แน่ใจว่าความรักจะราบรื่นขนาดไหน เพราะนิสัยของเอ ดูกร้าวร้าว เจ้าอารมณ์ ไม่มีเหตุผล จนบางครั้งดิฉันต้องแอบมานั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียว

เอให้ดิฉันช่วยเหลือตัวเองในบางครั้ง ด้วยการออกไปขายของตามตลาดนัด ไม่ใช่ให้นั่งงอมืองอเท้า ขอตังค์ทุกเดือนอย่างเดียว

พักหลังการค้าเริ่มฝืดเคือง เอก็มีปัญหากับครอบครัว ไม่ให้เงินดิฉันใช้อย่างที่เคยเป็น แค่เอาเงินเดือนค่าคอนโดมาให้ก็บ่นไม่หยุดไปหลายวัน

ดิฉันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไม่แน่นอนแบบนี้ จนกระทั่งเพื่อนซี้กลุ่มเก่าที่เคยทำงานนั่งดริ๊งก์มาชวนดิฉันไปหาลำไพ่ พิเศษ เป็นสาวไซด์ไลน์

ตอนแรกดิฉันมีความรู้สึกที่ไม่ดีแต่เมื่อเข้าตาจน แถมเอก็ไม่มาแยแส ดิฉันจึงทำงานแบบเลือกคนที่มาใช้บริการ

เมื่อตกลงกับกัปตันได้ ดิฉันจึงยอมทำงานเป็นบางครั้งเพื่อหาลำไพ่พิเศษมาเลี้ยงตัวเอง

วันหนึ่งดิฉันขนของพะรุงพะรังกลับเข้าคอนโด  ขณะกำลังหอบของเข้าลิฟต์ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งยิ้มให้อย่างสุภาพ

เขาอาสาช่วยดิฉันขนของไปถึงห้อง ดิฉันเห็นเขาผูกไท้ ใส่ชุดทำงานดูมีบุคลิกดีจึงยิ้มรับปล่อยให้เขาช่วยขนของมาถึงที่ห้อง

เมื่อมาถึงห้องดิฉันเขาถึงกับอุทานว่า ห้องเราอยู่ติดกันเลยครับ

ดิฉันไม่รู้มาก่อนว่า เขาอยู่ข้างห้องดิฉัน เขาแนะนำตัวว่า เขาชื่อสิทธิ์ ทำงานอยู่ออฟฟิศย่านสีลม คอนโดห้องของเขาซื้อไว้นานแล้ว เพิ่งจะย้ายเขามาอยู่ได้ไม่กี่วัน เขาย้ำว่า หากต้องการให้เขาช่วยอะไรก็ขอให้บอกเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ

ดิฉันขอบคุณเขาด้วยความเกรงใจ  แถมยิ้มให้เขาพร้อมแหย่ไปว่า ถ้ามีอะไรจะเรียกคุณคนแรกเลย

หลังวันนั้นดิฉันมาเจอเขาบ่อยขึ้น  โดยเฉพาะช่วงเย็น  เขามักจะลงมาเล่นฟิตเนส ดิฉันยอมรับว่า คุณสิทธิ์ เป็นคนหนุ่มหล่อหุ่นดี เขาน่าจะมีอายุใกล้เคียงกับดิฉัน และน่าจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเอ

วันหนึ่งคุณสิทธิ์เข้ามาทักดิฉันระหว่างที่เราลงมาเล่นฟิตเนส  ดิฉันสังเกตเห็นเขาจ้องมองเรือนร่างดิฉันที่ใส่เสื้อกล้ามรัดรูปและกางเกงขา สั้น

เราพูดคุยอย่างเป็นกันเอง แต่แล้ววงสนทนาก็แตกทันที เพราะจู่ๆ เอก็โผล่เข้ามา เขาชี้หน้าสิทธิ์แล้วหันมาถามดิฉันว่า หมอนี่เป็นใคร

ดิฉันหน้าซีดเผือด เพราะรู้ดีว่ามรสุมร้ายแรงกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ จริงอย่างที่ดิฉันคิดไม่ผิด เอปล่อยหมัดใส่คุณสิทธิ์ที่ไม่ระวังตัวจนเซถลา  เขากำลังมึนงง เอปรี่เข้าไปจะไปซ้ำพอดี พนักงานผู้ชายในฟิตเนสที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาห้ามเสียก่อน

เอลากแขนดิฉันพาขึ้นไปบนห้องทันที  คืนนั้นเราทะเลาะกันแทบบ้านแตก เขาออกจากห้องไปตอนดึกแล้วหายหน้าไปเป็นอาทิตย์ ดิฉันพยายามโทร.มือถือติดต่อแต่เขาไม่ยอมรับสาย เพราะขณะนี้ดิฉันกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินค่าเช่าคอนโด

เงินทองที่มีอยู่ดิฉันเริ่มร่อยหรอ เมื่อนึกถึงเพื่อนและพยายามจะไปขอหยิบยืม พวกเธอเหล่านั้นก็ปฏิเสธหมด

‘อดกลั้น’ ให้นานขึ้นกับตันตระ


 

ที่สำคัญก็คือ เราจะแอบขโมยเอาตันตระมาใช้กัน แต่ว่าไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นตันตระ 100 เปอร์เซ็นต์ แปลว่า คุณไม่ต้องกลายร่างไปเป็นโยคีบำเพ็ญพรตอะไรทั้งนั้น ทำตัวธรรมดาๆ นี่แหละ เพียงแต่ลองทำตามเทคนิคต่างๆ ของตันตระเท่านั้นเอง ซึ่งก็จะทำให้คุณสามารถ ‘อยู่’ ได้นานขึ้นในสนามรบ เรามาดูกันหน่อยดีไหม ว่าเคล็ดลับของตันตระที่เราเอามาใช้ได้มีอะไรบ้าง

 1. การฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

กล้าม เนื้อที่ว่า ฝรั่งเขาเรียกว่ากล้าม-เนื้อพีซี (ซึ่งไม่ใช่คอมพิวเตอร์แต่ประการใด!) จริงๆ แล้วก็คือกล้ามเนื้อหูรูดของเรานี่แหละ ถ้าคุณเพิ่งจะหลั่งเสร็จหมาดๆ ใหม่ๆ เชื่อแน่ว่า หลายคนคงมีปัญหาในการปลุกน้องชายของคุณขึ้นมาอีกครั้งใช่มั้ย โธ่! พวกเราส่วนใหญ่น่ะ ไม่เหมือนในหนังโป๊หรอกคุณที่แป๊บๆ ก็สามารถโชว์สมรรถ-ภาพได้อีกครั้ง อันนั้นมันอานุภาพของการตัดต่อต่างหากล่ะ ตันตระเองก็เชื่อคล้ายๆ กันว่า หลังจากหลั่งไปแล้ว มันก็คือการถ่ายเทพลังงานออกไป ทำให้ร่างกายของเราไม่เหลือพลังงานอยู่ เพราะฉะนั้น วิธีการที่จะช่วยสะกดกลั้นและสร้างพลังงานขึ้นมาได้ใ หม่ ก็ต้องไปฝึกกันกับกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อพีซีที่ว่า มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Pubococcygeur Muscle บางคนก็เรียกว่าเป็น ‘กล้ามเนื้อแห่งความรัก’ เป็นกล้ามเนื้อมัดที่อยู่ใกล้ๆ กับกระดูกเชิงกรานและกระดูกก้นกบ ถือเป็นกล้ามเนื้อมหัศจรรย์เลยครับ เพราะถ้าฝึกดีๆ มันจะทำให้การถึงจุดสุดยอดของคุณนั้นเข้มข้นถึงอกถึง ใจมากขึ้น แถมยังเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการ ‘หยุด’ การหลั่งได้อีกต่างหาก แต่ว่ากล้ามเนื้อมัดนี้ก็เหมือนกล้ามเนื้ออื่นๆ นั่นแหละ มันจะแข็งแรงได้ก็ต่อเมื่อเราต้องฝึกมันบ่อยๆ ให้แข็งแรง ไม่งั้นก็อ่อนปวกเปียกป้อแป้ พานทำให้เรากลายเป็นหนุ่มหลั่งเร็วไปเสียนี่ !


วิธีฝึกนั้นไม่ยาก
คุณต้องเริ่มต้นกับการปัสสาวะก่อน แล้วก็ลองกลั้นปัสสาวะให้น้ำที่พุ่งเป็นสายนั้นหยุดลง คราวนี้ก็จะรู้แล้วว่ากล้ามเนื้อมัดนั้นอยู่ตรงไหน พูดง่ายๆ ก็คือ ให้คุณขมิบก้นนั่นแหละ แล้วทำอย่างนี้วันละ 20-25 ครั้ง เป็นอย่างน้อย แต่ก็ระวังอย่าทำมากเกินไปด้วยนะคุณ ไม่งั้นกล้ามเนื้ออาจจะล้าได้ ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เหมือนการฝึกวิ่งหรือเล่นกีฬา แล้วกล้ามเนื้อก็จะแข็งแรงขึ้นมาด้วยตัวของมันเอง


ทีนี้เวลาคุณจะมีเซ็กซ์ ก็ให้ใช้เทคนิคการควบคุมกล้ามเนื้อพีซีร่วมไปกับเทคนิคอื่นๆ ด้วย ก็จะควบคุมการหลั่งได้อย่างเจ๋งเป้งเลยล่ะ


2. เทคนิคที่เจ้าหนู

เทคนิคที่สองเป็นเทคนิค ที่พุ่งเป้าตรงไปยังน้องชายและเจ้าคู่แฝดของคุณเลยทีเดียว เป็นเทคนิคที่ตันตระเชื่อว่าจะช่วยชะลอการหลั่งได้ เป้าหมายของวิธีนี้ก็คือให้เก็บน้ำอสุจิ พลังงาน และพลังชีวิตเอาไว้ไม่ให้ ‘กระฉอก’ ออกมาก่อนเวลาอันควร

ตันตระนั้นเชื่อว่า การมีเซ็กซ์นั้นทำให้มนุษย์เข้าสู่ภาวะสูงสุดได้ เพราะพลังงานในร่างกายจะหมุนเวียนไปมาอย่างรวดเร็ว และเราสามารถตระหนักจับพลังงานนั้นได้ถ้าเรามีสติพอ ถ้าคุณอยากเข้าถึงพลังงานในระดับสูงขึ้นละก็ ให้ลองทำเทคนิคต่อไปนี้ดู

ถ้าคุณใกล้จะหลั่งเต็มทนแล้ว ให้คุณเอื้อมมือลงไปเบื้องล่าง แล้วดึงเจ้าไข่แฝดคู่ของคุณออก คุณเคยสังเกตมั้ย ว่าเวลามีเซ็กซ์ใกล้จะถึงฝั่งฝันน่ะ เจ้าไข่แฝดของเรามันมักจะหดเกร็งตัวขึ้นไปด้านบน บางคนหดเกร็งจนแทบจะกลิ้งขึ้นไปเหนือแท่งเจ้าหนูด้วย ซ้ำไป คุณก็เลยต้องช่วยชีวิตมันหน่อย ด้วยการพยายามดึงเจ้าไข่แฝดลงมาไม่ให้มันตื่นเต้นมาก เกินไป ที่สำคัญก็คือต้องดึงเองนะคุณ อย่าให้เธอมาดึงให้ เพราะแค่มือของเธอสัมผัสถูกรับ รอง ว่าเจ้าไข่แฝดมันจะต้องยิ่งตื่นเต้นเป็นล้นพ้นแหง การดึงก็ต้องดึงแต่เบามือ ไม่งั้นคุณจะพานเจ็บเสียจนหมดอารมณ์ได้เหมือนกัน มันจะช่วยยืดเวลาการหลั่งออกไปได้

 3. เปลี่ยนท่า

เชื่อ มั้ย ว่าถ้าฝึกกันดีๆ ผู้ชายอย่างเราๆ นี่แหละ จะสามารถไปถึงจุดสุดยอดได้โดยไม่หลั่ง ! อ้าว! นี่เรื่องจริงนะ บางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์นี้มากันบ้างแล้วก็เป็นได้ มันก็คล้ายๆ กับที่ผู้หญิงเขามี Multiple Orgasm นั่นแหละคุณ ผู้ชายก็มีได้เหมือนกัน แต่ต้องฝึกหนักทีเดียวด้วยการใช้เทคนิคอดทนอดกลั้นนี ่แหละ


การเปลี่ยนท่าทางต่างๆ (อย่างเช่นที่เห็นในกามสูตร) ไม่ได้เป็นไปเพื่อความสนุกโลดโผนอย่างเดียวนะคุณ แต่ว่าแต่ละท่าน่ะ จะช่วยให้คุณยืดเวลาในการหลั่งออกไปได้นานขึ้นไปอีก สิ่งสำคัญที่สุดอาจไม่ได้อยู่ที่ท่าด้วยซ้ำ แต่อยู่ที่ช่วง ‘ระหว่าง’ การเปลี่ยนท่า ซึ่งเป็นเหมือนระหว่างการหายใจเข้าและออก คุณต้องฝึกช่วงนั้นนั่นแหละให้ดี คือไปให้ใกล้ถึงฝั่งฝัน แล้วหยุดเพื่อเปลี่ยนท่า ช่วงหยุดขณะเปลี่ยนท่าจะรั้งอารมณ์ความรู้สึกกลับมา ถ้าคุณทำได้ ก็เหมือนการฝึกควบคุมตัวเองนั่นแหละ การทำท่าต่างๆ มากๆ จึงเป็นหัวใจสำคัญของตันตระ และถ้าฝึกมากๆ คุณก็อาจถึงจุดได้หลายครั้งโดยยังไม่หลั่งออกมา ซึ่งเป็นการเก็บรักษาพลังงานเอาไว้ในตัว ทำให้ไม่เหน็ดเหนื่อย นี่เรื่องจริงนะคุณ ไม่ได้โม้ !


4. หายใจ

การหายใจก็เป็นเรื่องสำคัญเอามากๆ สำหรับตันตระ การหายใจที่ถูกต้องจะทำให้คุณ ‘สกัด’ เอาพลังงานจากโลกรอบข้างเข้ามาใส่ในตัว ทำให้พลังงานระหว่างคุณกับเธอหมุนเวียนระหว่างกันได้ ดี ซึ่งแน่นอนนั่นจะทำให้คุณกับเธอร่วมรักกันไปได้เป็นเวลายาวนานขึ้น แต่เทคนิคการฝึกหายใจนั้นเป็นเทคนิคที่ยากที่สุดก็ว่ าได้

ที่ว่ายากก็เพราะเวลาคุณกับเธอเข้าใกล้กัน มีโอกาสสูงยิ่ง ที่คุณกับเธอจะตื่นเต้นจนแทบทำอะไรไม่ถูก พอตื่นเต้น คุณก็จะหายใจเร็วและตื้นลง ยิ่งเวลามีอะไรกันไปจนใกล้จะถึงจุดสุดยอดด้วยแล้ว ลมหายใจก็จะยิ่งตื้นขึ้น เร็วขึ้น และแรงขึ้น วิธีการก็คือ คุณกับเธอต้องหายใจให้ลึกขึ้น และควบคุมให้ช้าลง การหายใจช้าลงจะมีผลทำให้พลังงานในร่างกาย หมุนวนช้าลงตามไปด้วย ผลก็คือทุกอย่างจะช้าลงทั้งระบบ และการหลั่งของคุณก็จะชะลอออกไป

คุณคงเห็นแล้วว่าเทคนิคแบบตันตระนั้นสะท้อนถึงปรัชญาที่ลึกซึ้ง นั่นก็คือการควบคุมองค์รวมทั้งระบบผ่านทั้งการหายใจ ท่วงท่า และการฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องหลั่งเร็วละก็ ลองฝึกดูหน่อยแล้วคุณจะรู้ว่าเซ็กซ์ที่เจ๋งเป้งน่ะ มันเป็นยังไง !

Sex ดี้ ดี...3นาทีก็พอ


 

จากแบบสอบถามของชาวอเมริกันเกี่ยวกับเซ็กซ์ ที่สุขสมไ ด้คำตอบมาว่า แค่ 3-10 นาทีกับเซ็กซ์แบบ Quickie ที่มีคุณภาพก็เพียงพอและพอใจแล้ว เหตุผลดีๆ สำหรับการมีเซ็กซ์แบบ Quickie ก็คือ การมีเซ็กซ์ที่ยาวนาน ไม่ได้บอกคุณภาพ

การมีเซ็กซ์แบบมาราธอนย่อมอ่อนล้าได้ นั่นคือการเคลื่อนไหวจะช้าลง อารมณ์หดหายลงเรื่อยๆ แต่ข้อดีของการมีเซ็กซ์แบบใช้เวลาน้อยก็คือ ทุ่มพลังทั้งหมดไปกับเซ็กซ์ในชั่วเวลาไม่นานแต่ได้รส ชาติจุใจ เต็มอิ่ม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกเซ็กซ์แบบใช้เวลาน้อย แต่นุ่มนวลละมุนละไม หรือจะเป็นแบบ Fast Food Sex ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของคุณและสุดที่รักก็ละกัน ทั้งนี้ หนุ่มสาวในสมัยโบราณก็รู้จัก Quickie Sex มาตั้งนานแล้วละเพราะพวกเขามีเวลาน้อยสำหรับการมีเซ็ กซ์เนื่องจากวิถีชีิวิ ตที่ต้องออกป่าล่าสัตว์และสะสมอาหาร จึงไม่ค่อยมีเวลาในแต่ละวัน นอกจากนั้น การมีเซ็กซ์ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ช่วยต่อเติมชีวิตรักเพราะการมีชีวิตคู่ที่ยาวนานก็ ทำให้กลายเป็นศัตรูกัน ได้

- Quickie Sex ช่วงพักโฆษณาในทีวี
ข้อ ดีก็คือ ไม่พลาดการชมภาพยนตร์ในทีวี และสามารถเลียนแบบฉากอีโรติกที่เพิ่งดูเมื่อครู่ได้ท ันที นอกจากนี้ เมื่อคุณมัวแต่คลุกเคล้ากับสุดที่รักก็จะไม่มีเวลาคิ ดถึงของกินเล่นที่จะ เพิ่มน้ำหนักให้คุณไงล่ะ

- Quickie Sex อาจทำให้เสพติดได้
ขณะ มีเซ็กซ์ ร่างกายก็จะหลั่งสาร Dopamin ออกมาซึ่งเป็นสารที่ปลุกอารมณ์ต้องการทางเพศและกระตุ ้นศูนย์อารมณ์ของสมอง แต่สาร Dopamin เป็นสิ่งเสพติด ถ้ามีมากเกินไปก็จะทำให้คนขาดสติยับยั้งชั่งใจ เกิดการข่มขืนกันได้ เพื่อความปลอดภัยคุณจึงควรมี Quickie Sex เป็นครั้งคราวจะดีกว่า


- Quickie Sex ไม่ต้องใช้เวลานาน
สำหรับ คู่รักที่ไม่มีเวลาคลอเคลียกันนาน เซ็กซ์ที่เร่งรีบก็ใช้ได้ผล เสร็จกิจก็ต่างคนต่างรีบไปทำธุระของตัวเอง โดยเฉพาะในโลกโลกาภิวัฒน์เฉกเช่นทุกวันนี้ มนุษย์มีตารางเวลาที่เต็มไปด้วยการนัดหมายจนแทบไม่มี เวลาอ้อยอิ่งอีกแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

ทำชั่วเพราะแค้น

จึงได้เตือนผู้หญิงในบ้านคนรู้จักว่า อย่าไปกดดันด่าเด็กเลย ถ้าเขาทำผิดก็พูดสอนเขาดีๆ เถอะ ผมได้แค่พูดเท่านี้ เธอจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่

ภรรยาผมอ่าน ''สยามดารา'' และผมอ่านคอลัมน์นี้ประจำ นึกขึ้นได้อาจจะเป็นอุทาหรณ์บทเรียนแก่บางท่านได้ จึงเขียนมา

ภรรยาผมคงได้อ่าน แต่ผมบอกเล่าเรื่องนี้ให้เธอทราบนานแล้ว เพราะเธอกับผมรักชอบกันตอนเรียน และเธอรู้เรื่องนี้หลังเหตุเกิดไม่นาน

คือตอนนั้น พ่อผมส่งผมมาอยู่กับอา เพื่อเรียนระดับอาชีวะ ที่จังหวัดผมไม่มี อามีภรรยาชื่อน้ำ ชื่อน้ำน่าจะเป็นคนอารมณ์เย็น แต่อาน้ำกลับเป็นคนฉุนเฉียว ปากร้าย

อาน้ำอายุ 34 ปี มีลูกคนหน้าตาดีพอใช้ รูปร่างก็ดี อ้อ บ้านที่อาอยู่เป็นบ้านของพ่อผม พ่อผมไปอยู่อีกจังหวัด เลยให้อาอยู่ ก็เท่ากับผมมาอยู่บ้านผมเหมือนกัน

อาน้ำกับผม คงเหมือนทำเวรทำกรรมกันมา ผมก็เจอแกบ้าง แต่พอผมมาอยู่วินาทีแรกศรศิลป์ก็ไม่กินกัน แกจะทำเรื่องบ่นว่า ประชดผมเสมอทั้งต่อหน้าและลับหลังอาผม จนอาผมดุแกบ่อยๆ

ผมเข้าเรียน เพื่อนผมมาบ้านอาน้ำก็ว่าผมต่อหน้าเพื่อนแล้วลามไปว่าเพื่อนผม จนเพื่อนผมโกรธไม่มาบ้านผมเลย ผมต้องไปคุยกับเพื่อนที่บ้านเขาบ้าง ที่หอบ้าง อาผู้ชายก็รู้แต่แกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมก็หลาน อาน้ำก็เมีย

เพื่อนผมเรียนอาชีวะแสบๆ ทั้งนั้น บางคนว่า อาผู้หญิงมึงน่าตบปาก บางคนว่า สั่งสอนข่มขื่นซะดีไหม ถ้าไม่เห็นแก่มึง กูจัดการแล้ว อาผู้ชายมึงไม่ค่อยอยู่บ้านด้วย

เพื่อนผมโกรธ เพราะไปว่าเขาว่า ไอ้พวกนักเรียนโจร ไล่ตีกันเหมือนโจร ทั้งๆ ที่เพื่อนผมเวลาเจออาน้ำเขาก็ยกมือไหว้ทุกคน ตอนหลังพวกเขาเลยไม่ไหว้

ผมอดทนจนปี 2 ตอนนั้นอาผู้ชายไปๆ มาๆ อีกจังหวัด เพราะเอาของไปส่ง ที่บ้านมีผมกับอาน้ำกับลูกแก แกก็เอาลูกไปนอนเป็นเพื่อน

อาน้ำพูดกับลูกแกใส่หูผมว่าไงรู้ไหมครับ

''ลูกมานอนเป็นเพื่อนแม่นะ เดี๋ยวโจรมันมาทำร้ายแม่ หากมันทำอะไรแม่เอาปืนพ่อยิงมันเลย''

ก็มีผมอาน้ำและลูกแก มันหมายถึงใคร?

ผมเคยอยู่กับอาน้ำ 2 คน ผมเคยถามแกว่า

''ทำไมอาจึงเกลียดผม''

อาน้ำตอบว่า

''ข้าไม่รู้ แต่ข้าไม่ชอบเอ็ง''

ผมถามว่า

''แล้วผมไปทำอะไรอา ผมมาอยู่ ค่าข้าว น้ำ พ่อผมก็ให้ และบ้านก็เป็นบ้านของพ่อผม''

เท่านั้นเองเหมือนเอาน้ำมันราดกองไฟ

''แกไม่ต้องมาทวงบ้าน ผัวกูบอกว่า บ้านเป็นของผัวกูเหมือนกัน''

ผมกลัวเรื่องบานปลายเลยออกจากบ้านไปนอนกับเพื่อนที่หอ

พออาผู้ชายกลับมารู้เรื่องแกรู้นิสัยเมีย เลยมาบอกให้ผมกลับบ้าน ใจเย็นๆ อย่าไปถือปากอาแกเลย
ก็เพราะที่แกดื่มเหล้านี่แหละ มันเลยเกิดเรื่อง
 
ผมไปเรียนเลิกก็ไปหอเพื่อนอยู่จน 2-3 ทุ่ม ผมกลับแบบนี้เสมอ ทั้งๆ ที่เลิกบ่าย เพราะผมไม่อยากกลับบ้าน
 
ผมเคยคิดว่า ถ้าผมเป็นคนอื่น ป่านนี้ติดยาเสพติดไปนานแล้ว แต่บังเอิญเพื่อนๆ ผมไม่ได้แบบนั้น
 
อาน้ำนั่งก๊งกับเพื่อน 2 คน พอผมเข้าบ้านแกก็เปรยว่า
 
''กูกลัวโว้ย กูอยู่คนเดียว ผัวก็ไม่อยู่ ลูกก็ไม่อยู่''
 
ความจริง เพื่อนๆ ของอาน้ำที่ดื่มอยู่ เขาก็รู้จักผม รู้ว่าผมเป็นอย่างไร เขายังเคยแอบปลอบผมเลยว่า ให้ใจเย็นๆ เขารู้ว่าอาน้ำกดขี่ด่าว่าผม
 
ผมเข้าห้องอาบน้ำ จะนอนแต่ก็นอนไม่หลับ เพราะเขาเสียงดัง แถมพูดดังกระทบผมตลอดเวลา แกเมามากเหมือนกันวันนั้น
 
จน 5 ทุ่มเพื่อนแกก็กลับ ผมได้ยินแกอาบน้ำ เดินชนโน่นชนนี่ คงเมา แล้วก็เงียบ
 
เที่ยงคืนกว่า ผมนอนไม่หลับ หิวน้ำ ออกมาเอาน้ำ เห็นห้องแกไฟยังเปิด ผมดื่มน้ำเสร็จกลับห้อง เอะใจเลยเดินเลยไป ประตูห้องแง้ม ผมขยับประตูนิด มองเข้าไปดู อาน้ำนอนหงายอล่างฉ่าง มีผ้าถุงผืนเดียว แกคงเมาเต็มที่เลยไม่ได้ปิดประตู ตัวถึงที่นอนก็สลบเลย
 
ผมงับประตู เดินกลับห้องไปนอนคิด คิดไปคิดมา เสียงเพื่อนที่เคยยุ ข่มขืนปิดปากมันเลย มันเจอไม่กล้าบอกใครหรอก มันโวยวายมันก็อายชาวบ้านจะดูหน้าใครติด คราวนี้มึงขี่มัน ขู่มันเลยว่าขืนด่ามึง มึงจะประจานมัน
 
ผมบอก (เขียน) ไม่ถูกหรอกครับว่าตอนนั้น อะไรมันทำให้ผมมีความคิดเลวๆ
 
แต่ผมลุกขึ้นจากเตียง ออกจากห้องแล้วเดินไปห้องอา เดินไปที่เตียงเอามือค่อยๆ ดึงผ้าถุงที่สวมไว้หลวมๆ ลงมาจนเห็นหน้าอก ผมเอามือไปลูบหน้าอกอาน้ำไม่ตึงหย่อนๆ แต่ไม่ถึงเหี่ยว หัวนมสีน้ำตาล
 
ผมดึงผ้าลงอีก อาไม่ใส่กางเกงใน อาน้ำนอนหงายจึงเห็นเนินโหนกถนัดขนดกมาก
 
ผมเอามือกรีดไล้ที่ร่องไปมา ประมาณ 4-5 นาที ก็มีน้ำเหนียวซึมติดนิ้ว แถมอาน้ำส่งเสียงในคอ ขยับก้นแกคงฝันหรือละเมอ
 
ผมเขี่ยต่อถูกเม็ด แกแอ่นเอวกางขา คราง ''โก....โก''
 
อาน้ำเรียกอาผมว่าโก...แกคงคิดว่า อาผมกำลังทำอะไรเธอ
 
ตอนนั้น อารมณ์ผมพุ่งมากแล้ว ผมถอดกางเกงแล้วค่อยขึ้นไปบนเตียง ขยับขาอาน้ำแล้วค่อยๆ สอดจ่อ
 
มันเข้าไปไม่ยาก แม้ของผมก็ไม่ใช่เล็ก แต่เพราะเธอมีลูกแล้ว และมีน้ำหล่อลื่นมาก
 
ผมดันไปจนมิด แล้วค่อยดึงออก
 
ตกใจ เมื่อเสียงอาน้ำครางดัง แถมบอกว่าดี
 
ผมมองหน้าแกยังหลับตาสนิทอยู่ มือเท้ากางเต็มที่
 
ผมขยับไปเรื่อยๆ ตามจังหวะ ผมเคยผู้หญิง เพราะตอนนั้นก็มีแฟนแล้ว ประมาณ 20 นาที ผมก็รู้สึกเสียวใกล้ถึงก็ลืมตัวกดจะเร็ว-แรง
 
ด้วยเหตุนี้เอง อาน้ำรู้สึกตัวร้องลั่น
 
''มึง...เอากู...เอาออก...เอาออก''
 
ผมก็ออกพอดี ฉีดพุ่งเข้าไปในตัวเธอ
''เอาออก....มึงเสร็จแล้ว''
 
ผมกดตัวผมแนบกับตัวเธอ เอา 2 มือจับแขน เอวก็กระแทกไปเรื่อยๆ แล้วมันก็แข็งได้อีกทันตา
 
อาน้ำคงรู้สึกว่า ของผมแข็งอีกและอยู่ในตัวเธอ
 
''มึงไม่เอาออก กูร้องให้คนช่วย''
 
แกก็ร้อง ช่วยด้วย-ช่วยด้วย แต่เสียงไม่ดังคงอายกลัวคนรู้
 
ผมรู้ทันเลยบอกว่า ''อาร้องเลย ร้องให้ดัง-ดัง ให้ชาวบ้านรู้เลยว่าผมเอาอา''
 
เจอไม้นี้แกเงียบไปพัก ผมก็ซอยต่อ
 
''กูเจ็บ มึงเอาออกก่อน เดี๋ยวกูให้มึงเอาต่อ เอาออกก่อน''
 
แกใช้ชั้นเชิง ใครจะยอม ผมก็ซอยไปเรื่อย
 
แม้อาน้ำจะถูกผมข่มขืน ใจแกไม่ยอมแต่ร่างกายธรรมชาติของการถูกร่วมทำให้ประสาทที่รับความเสียวยอมคล้อยตาม
 
แกน้ำหูน้ำตาไหล ร้องไห้ฮือ-ฮือ ปากบอกเอาออก พอแล้ว มึงเอาก็แล้ว พออย่าออกในกู เดี๋ยวกูท้อง
 
มือที่ผลักเปลี่ยนเป็นกางอ้าซ่ากับที่นอน บางครั้งก็หายใจเฮือกๆ หลับตาบ้าง ลืมตาบ้าง บางทีก็กัดฟันดังกรอดๆ คงเพื่อจะข่มความเสียว
 
แต่ 20 นาทีแกก็แพ้ อาน้ำร้องโอ๊ย-โอ๊ย แอ่นตัว แต่ปากยังร้องพอแล้ว พอแล้ว กูยอมแล้ว
 
ผมมองไปที่มือแกจิกที่นอนจนแทบขาด ตาเหลือก 2 ขายกชันไม่รู้ตัว
 
''มันไหมอา'' ผมถามเหมือนเยาะเย้ย
 
''ไอ้บ้า ไอ้สัตว์ พอแล้วเอาออก''
 
''มึงด่ากู''
 
ผมชักโกรธขึ้นมาก็อัดเต็มแรงเสียงเตียงดังเอี๊ยด-เอี๊ยดแทบพัง ผมลากแกมาข้างเตียง จับขาแกหนีบเอง
 
''กูบ้า เพราะมึงด่ากูตลอดเวลา กูทำอะไรให้มึง มึงว่ากูโจร วันนี้กูเป็นโจรแล้ว''
 
''กูไม่ด่ามึงแล้ว พอเถอะ กูไหว้ล่ะ''
 
ผมไม่ฟังเสียง ยืนทำเธอที่ขอบเตียง
 
อาน้ำตัวอ่อน ปล่อยให้ผมจับทำทุกอย่าง แต่ปากยังด่าผมไอ้เห..บ้าง ไอ้สัตว์บ้างไปเรื่อย
 
บางทีก็หยุดด่า แล้วกลืนน้ำลาย
 
แล้วแกก็ถึงอีก ร้องโอ๊ย-โอ๊ย กูยอมแล้ว กูแพ้มึงแล้วเหมือนเดิม 2 มือจิกผ้าปูที่นอนแน่น
 
ผมก็เสร็จพอดี รวมครั้ง 2 นี้เกือบครึ่งชั่วโมง
 
ผมกดตัวนอนทาบตัวแก
 
''พอแล้ว มึงเอา 2 ทีแล้ว พอแล้วเอาออกเดี๋ยวน้ำเปื้อนที่นอนผัวกูรู้''
 
แกผลักผม แล้วเอาผ้าถุงมาโป๊ะตรงนั้น
 
''ไอ้สัตว์ ถ้ากูท้อง กูจะฆ่ามึง กูบอกไม่ให้ออกในกู มึงไม่ฟัง ไอ้เห...''
 
แล้วแกก็วิ่งไปห้องน้ำทั้งแก้ผ้าอยู่ในห้องน้ำนาน คงเอาน้ำฉีดล้างข้างในจะได้ไม่ท้อง
 
ผมกลับห้องแต่งตัวแล้ว ขี่มอเตอร์ไซค์ไปหอเพื่อน
 
เพื่อนแปลกใจ ทำไมผมมาตี 2 ตี 3
 
''กูข่มขืนอาน้ำ''
 
เพื่อนตกใจเหมือนกัน แต่สักครู่มันก็หัวเราะ
 
''กูบอกแล้ว มึงน่าจะทำนานแล้ว''
 
''แกจะบอกอากูไหม?''
 
''เชื่อเถอะ แกปิดปากสนิทแน่''
อาผู้ชายมาหาผมที่หอ ให้ผมกลับบ้าน แกบอกว่า อาน้ำบอกว่าผมทะเลาะกับแก เลยออกจากบ้านมา
 
ผมใจชื้น พอได้ยิน เพื่อนก็ได้ยินนั่งอมยิ้ม
 
''แกกลับบ้าน ขืนพ่อแกรู้พ่อแกด่าอาเละ...หาว่าปล่อยเมียทะเลาะกับหลาน''
 
พออาผมกลับไป เพื่อนบอกว่า
 
''กูบอกแล้ว มันไม่กล้าฟ้องผัวมัน...''
 
ผมกลับบ้านอาน้ำไม่มองหน้าผมเลย ผมอยู่ไหนแกเดินหนี อาผมไม่อยู่แกเอาลูกแกอยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา
 
ครั้งหนึ่งแกบอกผม
 
''กูกลัวมึง...มึงอย่าอยู่บ้านนี้เลย...กูไม่ไว้ใจมึงแล้ว เดี๋ยวมึงเอากูอีก...''
 
''ถ้าอาไม่ด่าผม...ผมก็ไม่ทำอาหรอก...''
 
อีกวันตอนเช้า อาผู้ชายออกจากบ้าน ลูกแกไปโรงเรียน
 
อาน้ำบอกผม
 
''ฉันขอร้องให้แกไปอยู่กับเพื่อน''
 
''ก็ได้...ผมจะไป...แต่อาต้องยอมให้ผมเอาอีกครั้ง...แบบผมไม่ต้องข่มขืน...''
 
''ไม่เอา...กูไม่ยอมมึงแล้ว...''
 
''งั้นผมก็ไม่ไปไหน...อยู่ดูหน้าอาต่อไป และให้อาเห็นหน้าผมต่อไป...เผลอๆ อาเมา ผมจะข่มขืนอาอีกแน่...''
 
''ไอ้สัตว์...'' แกเดินจะไปแล้วกลับหยุด
 
''ถ้ากูยอมมึงต้องสาบาน...มึงต้องไป...''
 
''ได้...ผมสาบาน...''
 
ผมยกมือไปทางพระเจดีย์...
 
''ผมสาบานแล้ว...อาต้องยอมผม''
 
อาน้ำนั่งอยู่นาน เพราะไม่คิดว่าผมจะสาบาน
 
ผมเดินไปคว้ามือเธอ
 
''ไปห้องผม...''
 
''กูไม่เชื่อมึง...'' แกขัดขืน
 
ผมลากแกเข้าห้องจนได้
 
''มึงสาบานอีกที...''
 
''ก็ได้'' ผมสาบานอีก แล้วดึงเธอไปที่เตียง จูบปากเธอแต่เธอหันหน้าหนี
 
''มึงไม่ต้องจูบกู จะเอาก็เอา''
 
แกนอนเหมือนประชด
 
ผมถอดเสื้อผ้าถุงเธอ เสื้อในกางเกงใน แล้วถอดของผมซึ่งแข็งรออยู่แล้ว
 
สังเกตตาเธอมองของผมแวบหนึ่งแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น
 
ผมจับลูบคลำแก แกไม่ปัดมือ
 
''ผมบอกแล้วไง อาต้องยอมผมดีๆ...อีกอย่าง...ถ้าอาไม่มีน้ำ เดี๋ยวอาเจ็บนะ...''
 
แกถึงยอมให้ผมลูบคลำ ใช้นิ้วจนน้ำซึมแฉะ
 
ผมสอดเธอ
 
''ค่อยๆ...ของมึงใหญ่...กูเจ็บ...''
 
อาน้ำมีอารมณ์แน่นอน เพราะผมซอยไม่นานตัวแกก็เกร็ง ครางซี้ด มือจิกที่นอน
 
''อากอดผมก็ได้...''
 
ผมดึงมือเธอมากอดผม แกก็กอดผมจับขาเธอ 2 ขามารัดเอวผม แกก็รัด
 
''ชอบแรงๆ ไหม?''
 
แกก็ครางอือ...อือ...
 
ผมทำแกเกือบชั่วโมง แกเสร็จ 3 ครั้ง พอผมจะออก แกรีบบอก อย่าออกข้างใน เดี๋ยวกูท้อง
 
''ถ้าจะท้อง...ก็ท้องครั้งแรกแล้ว''
 
ผมก็ออกในตัวแกอีก
 
''ต้องไปอยู่ที่อื่นนะ...ต้องทำตามมึงสาบาน''
 
''เรื่องอะไรผมจะออก...นี่บ้านผม...อีกอย่าง...ถ้าผมออกไป...เขาต้องสงสารอาแน่...''
 
''มึงโกหก...''
 
แกตบตีผม แต่ไม่แรงนักคงเป็นจริตของผู้หญิงมากกว่า
 
ตั้งแต่นั้นมา เผลอคนผมเป็นต้องคว้าแกเข้าห้อง แกจะขัดขืนเป็นพิธีแล้วก็ยอมผมทุกครั้งไป
 
ผมจบปี 3 จึงกลับบ้านแล้วเกณฑ์ทหารออกจากทหารแต่งเมียแล้วเข้ากรุงเทพฯ จนทุกวันนี้
 
(จบ)

ฝันเป็นจริง

บ้างก็ว่ามีทั่วไป บ้างก็ว่ามีแต่ในสังคมชั้นสูง

 
จนเป็นหนุ่มเข้าเรียนสายอาชีวศึกษามีเพื่อนเอาผู้หญิงมานอน ส่วนมากเป็นผู้หญิงอย่างว่า ไปจับมา ผู้ชาย 2-3 คน ผู้หญิง 1

 
ผมไม่ได้เข้าร่วมด้วย เพราะสกปรกเคยแต่นั่งดู ส่วนใหญ่ผมจะหนีเพราะกลัวจะมีคดี เดี๋ยวผู้หญิงไปแจ้งความตำรวจ จะเจอข้อหาไปด้วย และผมคิดว่าแบบนี้มันเป็นการเรียงคิวมากกว่าสวิงหรือเซ็กซ์หมู่ เพราะผู้หญิงมักไม่รู้ตัว คิดว่าผู้ชายมีคนเดียว พอมาก็เจอหลายคน

 
จบมาทำงาน คุยกับเพื่อนๆ เขาก็คุยโม้กันไปตามเรื่อง หาความจริงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม มีข่าวตำรวจจับเซ็กซ์หมู่ ออกข่าวหลายครั้ง

 
ผมมีแฟนหลายคนได้เสียกัน เลิกกันบ้าง อยู่กันสักปีก็เลิกบ้าง คือไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน

 
จน 2 ปีที่แล้ว ผมมีแฟนคนหนึ่งและอยู่กันจนวันนี้ ที่ผมเรียกว่าแฟน เพราะยังไม่คิดว่าเราเป็นผัวเมียกัน

 
แฟนผมทำงาน จบสายอาชีวะด้วยกัน และแน่นอนเธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ เมื่อมาเจอผมและอยู่ด้วยกัน

 
อยู่กันมาได้ปี ผมอ่านหนังสือรายสัปดาห์ที่มีเรื่องเพศ และมีเรื่องสวิง ผมคุยกับเธอ คือคุยทั่วๆไป

 
แฟนผมเขาบอกว่า มีเพื่อนเธอคนหนึ่งทำงานด้วยกัน แอบเล่าให้ฟังว่า เธอถูกแฟนพาร่วมสวิงมา 2-3 ครั้ง

 
ผู้หญิงคนนั้นบอกแฟนผมว่า มันมากสุดๆ เลย แต่กลุ่มของเธอมีเพียง 3-4 คู่เท่านั้น

 
''เธอสนใจไหมล่ะ...จะพามารู้จัก สวยด้วยนะ''

 
ผมเลยบอกเอาซิ แต่เกิดแฟนเขาชอบเธอล่ะ จะทำอย่างไร

 
''ก็เอาซิ อยากลองเหมือนกัน หึงหรือเปล่าล่ะ''

 
ผมเองกลับตอบไปว่า ''ไม่รู้โว้ย''

 
แฟนผมนัดให้ผมไปรับเธอที่ทำงาน ผมไปรับเธอมีเพื่อนมาด้วย เพื่อนเธอสวยครับ สวยกว่าแฟนผมมาก

 
เพื่อนเธอชวนผมไปบ้านเธอ บอกตกลงกับแฟนผมแล้ว

 
ไปถึงเธอเอาเบียร์มาเลี้ยง บอกเดี๋ยวสามีเธอมา สักชั่วโมงสามีเธอก็มา สามีเธอหน้าตาหล่อกว่าผมเช่นกัน แต่ตัวเล็กกว่า

 
เรานั่งดื่มกัน เธอกับแฟนผมก็ดื่มด้วย จนตึงๆ เธอชวนแฟนผมไปอาบน้ำ แต่ไม่ได้บอกผม ออกมาแฟนผมนุ่งขาสั้นเสื้อยืด เธอก็เช่นกัน แล้วสามีเธอก็ไปอาบน้ำพอออกมา ก็มานั่งใกล้กันคุยกันไปมา ก็กอดจูบกัน ผมก็งงๆ แต่เมียผมอมยิ้ม มานั่งใกล้ผมบอกว่าอยากรู้ไม่ใช่หรือ แฟนผมจูงมือผมเข้าไปในห้อง ถอดเสื้อผ้าผม ให้ผมไปอาบน้ำ

 
ออกจากห้องน้ำมา เมียผม เธอคนนั้นและสามีเธอ เปลือยกันหมดทั้ง 3 คน อยู่บนเตียงใหญ่

 
แฟนผมกำลังถูกใช้ลิ้น และเธอดูดหน้าอกเมียผม

 
พอเห็นผมเธอลุกมา ถอดกางเกงถอดเสื้อผม แล้วจูงมือผมไปบนเตียง

 
พอผมแข็งตัว เธอบอกโอ้โฮ ฝันมานานแล้วจะได้ขนาดนี้ เธอบอกสามีเธอ ดูซิ-ดูซิ อย่างกะม้าแน่ะ

 
คืนนั้นผมทำสถิติถึง 6 ครั้ง กับเมียผม 2 ครั้ง กับเธอคนนั้น 4 ครั้ง แฟนผมเจอ 5 ครั้ง บอกสุดๆเลย สุดยอดนับไม่ถ้วน เสียวมากเมื่อเจอทั้งล่างทั้งบน

 
ต่อมาเธอและสามี พาผมไปเข้ากลุ่มใหญ่

-จบ-

ดรุณี 6

ยัยต้อมที่อาบน้ำเสร็จ เธอได้ยินเรื่องนี้พอดี เธอเข้ามาให้กำลังใจพร้อมกับเอ่ยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของอารมณ์พาไป เชื่อว่าหากเรื่องนี้เกิดกับแฟนดิฉันบ้าง เขาก็อาจเข้าใจ



ดิฉันยังไม่แน่ใจเรื่องที่เพื่อนพูด แต่เมื่อเธออธิบายว่า สมมติว่าเฮียเล็กเกิดพลาดไปมีผู้หญิงอื่นอย่างไม่ตั้งใจ เธอจะโกรธไหม

ดิฉันปฏิเสธว่า ไม่รู้ ยัยต้อมเลยหัวเราะบอกว่า คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน บางครั้งก็พลาดเผลอกันได้เหมือนเธอที่พลาดไปเพราะอารมณ์ 

ยัยตู่เลยเสริมว่า เอางี้ลองดูไหม ฉันเชื่อว่าเธอจะสบายใจขึ้นแน่ ถ้าเฮียเล็กก็เผลอใจไปกับหญิงอื่น เธอจะไม้รู้สึกผิดอีกต่อไป เพราะถือว่าเจ๊ากันไป

ดิฉันยังงง ไม่เข้าใจที่เพื่อนพูด พวกเธอเลยเฉไฉไปพูดเรื่องเที่ยววันรุ่งขึ้น

ดิฉันเลยนึกขึ้นได้ว่า แฟนดิฉันให้มาบอกว่า พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว และให้ลูกจ้างคนสนิทดูแลร้านให้ จะออกเดินทางช่วงเช้าเพราะอากาศกำลังดี สายๆ อาจจะร้อนเขาขอให้คืนนี้นอนเร็วหน่อย

วันรุ่งขึ้นพวกเรา ตื่นเต่เช้าและเริ่มออกเดินทางเมื่อพร้อมทันที ดิฉันแปลกใจที่เพื่อนสองคนแต่งตัวค่อนข้างสบายเกินไป ยัยตู่ใส่เสื้อยืดแขนกุด รัดรูป กระโปรงสั้น ส่วนยัยต้อมใส่สายเดี่ยว กางเกงยีนขาสั้นก็สั้นเต่อมาก ดิฉันเองกลับใส่ยีนขายาวและเสื้อธรรมดาเท่านั้น

ก่อนขึ้นรถยัยตู่ขออนุญาตไปนั่งหน้ารถคู่เฮียเล็ก โดยอ้างว่าอยากดูวิวชัดๆ ดิฉันก็ไม่ปฏิเสธเพื่อน เพราะอยากเอาใจพวกเขาสองคนเต็มที่ ดิฉันจึงไปนั่งหลังรถคู่ยัยต้อม

ระหว่างทางยัยตู่ชวนแฟนดิฉันคุยตลอดทางอย่างสนุก ยัยต้อมก็เสริมตลอดเวลา จนพวกเราคุ้นกันมาก ดิฉันก็สังเกตว่าเฮียเล็กเริ่มสนิทกับเพื่อนดิฉันทั้งๆ ที่ตอนแรกดิฉันเองก็ห่วงกลัวว่าเขาจะเบื่อหรือรำคาญที่ต้องมาเป็นสารถีขับรถ และเอาใจพวกดิฉัน

เราพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวน้ำตกและชมวิวไหล่ทางตามเขา ทำเอาเพื่อนๆ ตื่นตาตื่นใจ ถามไถ่ดิฉันและแฟนไม่ขาดปาก

ช่วงพักเที่ยงเราแวะรับประทานอาหารตามข้างทาง ระหว่างนั้นเอง ดิฉันเหลือบไปสังเกตเห็นว่ายัยตู่ที่ใส่กระโปรงสั้นนั้นนั่งโป๊มาก ที่สำคัญเธอไม่สวมบิกินีชั้นในด้วยซ้ำ

ดิฉันแอบไปสะกิดยัยต้อมให้รู้ เธอแค่อมยิ้มบอกว่า ยัยตู่เป็นผื่นแพ้กางเกง วันนี้ยอมโล่งโจ้งสักวัน


ดิฉันไม่ว่าอะไร เพราะคิดว่าคงไม่มีใครทันสังเกตแน่นอน

ช่วงบ่ายดิฉันเผลอหลับไประหว่างทางที่รถกำลังเข้าสู่น้ำตก เมื่องัวเงียตื่นขึ้นมาก็ตกใจที่เห็นยัยตู่กำลังลูบไล้หน้าอกเฮียเล็ก แถมมือของเธอยังกุมที่เป้าของเขาอีกต่างหาก

ยัยต้อมที่นั่งข้างดิฉันรีบรั้งไว้แอบกระซิบว่า อยู่เฉยๆ ก่อนนะ ทำเป็นหลับไปก่อน

ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่เพื่อนกล้าทำแบบนี้ เมื่อรถถึงที่หมายและจอดสนิท พวกเขาสองคนก็หันมาปลุกดิฉันกับยัยต้อมที่แกล้งหลับ

ยัยต้อมรีบฉุดดิฉันไปเข้าห้องน้ำแล้วเริ่มเรื่อง เธออธิบายสาเหตุที่แท้จริงว่า เธอและยัยตู่อยากให้ดิฉันเลิกคิดมากเรื่องที่เผลอตัวไปกับชายคนอื่น จึงตามกลับมานี่เพื่อชดเชยให้แฟนเธอ

เพื่อนดิฉันสองคนเชื่อว่า หากเฮียเล็กเผลอตัวไปกับหญิงอื่นบ้างก็เหมือนชดเชยกัน ความรู้สึกที่ดิฉันพลาดไปก็อาจลบล้างกันได้

เธอกับยัยตู่เช็กแล้วว่า เฮียเล็กก็เผลอใจไปเยอะเหมือนกัน เพราะคงทนโดนยั่วไม่ไหว

เธอเล่าว่า ยัยตู่แกล้งใส่กระโปรงสั้น ไม่ใส่กางเกงเพื่อต้องการยั่วเขาเต็มที่ เธอแกล้งทำเป็นเผลอนั่งหวอให้เห็นกันเต็มๆ

ยัยต้อมถามให้แน่ใจว่า ดิฉันไม่โกรธใช่ไหม หากพวกเธอช่วยให้เฮียเล็กมีความสุข

ดิฉันยอมรับว่า ไม่โกรธจริงๆ เป็นการดีเสียอีก หากพวกเราเข้ากันได้ดี

เมื่อดิฉันพูดแค่นี้ยัยต้อมถึงกับหัวเราะออกมา พร้อมกับบอกว่า เดี๋ยวคืนนี้เราทำอะไรสนุกๆ กันดีกว่า

ค่ำวันนั้นเมื่อกลับไปที่บ้านดิฉัน เพื่อนตัวแสบทั้งสองให้ดิฉันไปหลบในตู้เสื้อผ้าแล้วคอยดูว่าพวกเธอสองคนกับแฟนดิฉันจะทำอะไรกัน

ดิฉันตื่นเต้นที่จะได้แอบดูพฤติกรรมของแฟน จึงนึกสนุกเห็นพ้องด้วย เมื่อแอบมองจากช่องเล็กๆ ในตู้เสื้อผ้าก็เห็นเพื่อนสาวทั้งคู่เตรียมพร้อมเต็มที่

คนหนึ่งใส่ผ้าขนหนูผืนเดียว อีกคนก็ใส่ชุดนอนบางๆ จนโปร่งใสเห็นความว่างเปล่าภายใน

เฮียเล็กเข้ามาแล้ว เพราะยัยต้อมไปเรียกให้เข้ามาช่วยขยับเตียงภายในห้อง

แฟนดิฉันทำท่างงๆ เขาสลับแอบมองเพื่อนดิฉันตลอดเวลา 

ยัยต้อมพยายามชวนเขาคุย เขาถามว่าดิฉันไปไหน ยัยต้อมปดไปว่า ดิฉันออกไปซื้อของมินิมาร์ทข้างนอก

ระหว่างนั้นเอง ยัยตู่ทำเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอก็แก้ผ้าขนหนูยืนหวีผมที่กระจกโดยไม่มีเสื้อผ้าปกปิด

เฮียเล็กตกใจที่เห็นเธอทำเช่นนี้ เขาทำตัวไม่ถูกแกล้งไม่มองยัยตู่

ยัยต้อมหัวเราะคิก เธอบอกแฟนดิฉันว่า พวกเธอทำตัวตามสบายอย่าได้ถือสา ถ้าอยากมองก็มองไม่เห็นจะแปลก

ถึงตอนนี้แฟนดิฉันคงรู้แล้วว่าเพื่อนดิฉันสองคนกำลังให้ท่า แม้ว่าเขายังนิ่งอาจเพราะยังเกรงใจดิฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้

ยัยต้อมเดินเข้าหาเฮียเล็กก่อน เธอเข้าไปนั่งใกล้ๆ เขาแล้วถอดชุดนอนออกจากร่างจนเปลือยเปล่า

เธอขึ้นค่อมแล้วดันร่างแฟนดิฉันลงนอนบนเตียง ก่อนใช้ปากประกบแน่น เขาคงทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงเอื้อมมือไปลูบไล้เรือนร่างของเธอ

ดิฉันเห็นยัยตู่รีบเข้ามาสมทบช่วยถอดกางเกงออกจากปลายขาแล้วใช้มือควานหาของที่ต้องการที่มันซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นในของเขา

เธอเหมือนไม่ทันใจจึงรีบรูดปราการด่านสุดท้ายของเขาออก มันเป็นอาวุธที่ดิฉันคุ้นเคย แต่ในขณะนี้มันกลับถูกเพื่อนดิฉันแย่งไปใช้งานชั่วคราว

ยัยตู่ส่งมันเข้าปากแล้ว เธอบรรจงใช้ชิวหาเล่นงานมันจนเฮียเล็กที่ถูกยัยต้อมพัวพันเริ่มเกิดอาการเกร็งไปทั่วเรือนร่าง

ยัยต้อมเห็นว่าเขาถูกจู่โจมจึงอยากให้เขาเพลิดเพลิน เธอจึงนั่งค่อมบนหน้าแล้วแอ่นร่างถูไถอย่างสนุก

เสียงของยัยต้อมทำให้ดิฉันที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าเกิดอารมณ์ร่วมตาม ไปด้วย เธอบอกให้แฟนดิฉันเกร็งปากให้แน่น เธอจะเป็นฝ่ายโยกกายให้เข้าจังหวะเอง

แฟนดิฉันเชื่อฟังเธอดี เพียงแค่อึดใจ เพื่อนดิฉันก็หวีดร้องถึงเส้นชัยไปด้วยฝีมือของเฮียเล็ก

ยัยตู่ที่เล่นกับอาวุธประจำกายของเขาอยู่พักใหญ่ เริ่มอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น เธอหยิบปลอกกันพิษมาสวมใส่ให้เขาก่อนนั่งยองๆ แล้วจับมันยัดเข้าสู่ร่างกายทันที

เธอแอ่นร่างรับการเสียดสีอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสียงเร้าใจออกมาอย่างต่อเนื่อง แค่นาทีเดียวเพื่อนดิฉันก็บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เธอโซเซทรุดนอนกอดเขาด้วยความเหนื่อยอ่อน เพราะทุ่มเทกับการใช้พลังงานอย่างรวดเร็วมากเกินไป

หลังพักอึดใจ เธอและยัยต้อมก็หันมาใช้มือช่วยเขาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหมือนเธอ คราวนี้เฮียเล็กถูกสาวสองคนประสานมือกันอย่างเข้าขา เขาส่งเสียงอึดอัดในลำคอแค่แวบเดียว มันก็คายพิษออกมาจนเปรอะผ้าปูที่นอน

ยัยตู่ลุกไปเอากระดาษชำระมาช่วยเช็ดทำความสะอาด เขาเหมือนรู้สึกตัวได้จึงรีบใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เขาคงกลัวความผิดว่า เผลอนอกใจดิฉันไปนั่นเอง

เมื่อแฟนดิฉันออกจากห้องไปแล้ว เพื่อนสองคนเห็นหน้าดิฉันแล้วอมยิ้ม รีบแนะให้ดิฉันออกไปก่อนที่เขาจะมาเห็น

หลังเพื่อนดิฉันกลับไปกรุงเทพฯ แล้ว แฟนดิฉันไม่กล้ามองหน้าดิฉันพักใหญ่ เขาคงรู้สึกกลัวความผิดเหมือนกับที่ดิฉันเคยทำ

ดิฉันรู้สึกขอบใจเพื่อนที่ทำให้ปมในใจมันคลายลงจนสิ้น เพราะอย่างน้อยที่สุดเรื่องที่ผิดพลาดไปในชีวิตของดิฉันมันก็เสมอกันเหมือน ไม่เคยทำพลาดมาก่อนจริงๆ

ดรุณี 5

ทันทีที่อาวุธของเปี๊ยกผ่านเข้ามาลึกสุด ดิฉันก็รู้สึกซาบซ่านไปทั่วหว่างขา เขาเริ่มโยกกายเบาๆ อย่างต่อเนื่อง ยัยตู่เห็นว่ามันไม่ทันใจ เธอจึงก้มหน้าเข้ามาช่วย ก่อนนำชิวหาออกมาสัมผัสจุดสำคัญบริเวณปากทางเข้า




เท่านั้นเอง ดิฉันถึงกับเกร็งตัวต่อต้าน จุดที่ไวต่อประสาทส่วนนี้ เมื่อยัยตู่เร่งปลายลิ้นเหมือนงูฉก ดิฉันก็ทนไม่ไหวส่งเสียงร้องไม่เป็นภาษามนุษย์ทันที

การถูกจู่โจมสองจุดทำให้ดิฉันถึงแดนสุขาวดีไปอย่างรวดเร็ว ดิฉันร่ำร้องขอให้เขาหยุดการกระทำเพราะเริ่มรับสภาพไม่ไหว เปี๊ยกจึงสลับร่างเปลี่ยนเป็นกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟา ยัยต้อมที่เป็นผู้ชมอยู่สักพักก็เข้ามาเล่นเป็นตัวจริง

เธอนั่งทับเปี๊ยก แหงนร่างเหมือนนั่งตักแฟน เมื่อเริ่มโยกกายเบาๆ ยัยตู่ก็ส่งเสียงร้องเป็นจังหวะอย่างหฤหรรษ์ เปี๊ยกเห็นพวกเราสองคนยืนเก้ๆ กังๆ จึงพยักหน้าให้เข้ามาใกล้ๆ เขาเอามือมาช่วยเหลือดิฉันที่หว่างขา

ยัยต้อมไม่ยอมน้อยหน้า เธอขึ้นไปบนโซฟาแล้วนั่งค่อมบนหน้าเปี๊ยก พวกเราสามคนผลัดกันช่วยผลัดกันรุมอย่างสนุกจนกระทั่งชายหนุ่มแทบหมดแรงในวัน นั้น

หลังที่เปี๊ยกกลับไป ดิฉันรู้สึกเสียใจในการกระทำที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่ตัวเปล่าแล้ว แม้ว่าดิฉันยังไม่ได้แต่งงานก็ตาม แต่เฮียเล็กที่คบกันมานานถือเป็นคู่ชีวิตในขณะนี้

ดิฉันนั่งซึมในห้องจนเพื่อนสองคนสังเกตเห็น เธอเข้ามาถามดิฉันพยายามจะปฏิเสธ แต่เมื่อโดนเพื่อนสองคนซักอย่างหนักจึงยอมเปิดใจว่า ดิฉันเสียใจและคิดมากที่ทำผิดต่อเฮียเล็ก

เพื่อนสองคนพยายามปลอบว่าอย่าคิดมาก หากไม่สบายใจจะรีบกลับบ้านไปหาเขาก็ได้ ดิฉันพยักหน้าเพราะรู้สึกอยากกลับบ้านจริงๆ

คืนนั้นดิฉันนอนไม่หลับ จนรุ่งเช้ายัยตู่กับยัยต้อมมาบอกข่าวที่ทำให้ดิฉันแปลกใจว่า เธออยากไปเที่ยวบ้านดิฉันที่ต่างจังหวัด หากดิฉันจะกลับบ้านก็ขอติดไปด้วย

ดิฉันดีใจมากที่เพื่อนสองคนจะไปเที่ยวบ้านดิฉันบ้าง ที่สำคัญช่วงเดินทางกลับไม่เหงาแน่นอน

พวกเราเก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวเดินทางช่วงค่ำ กำหนดจะกลับถึงบ้านดิฉันก็ราวรุ่งเช้าวันใหม่พอดี

เฮียเล็กส่งให้รุ่นน้องมารับดิฉันและเพื่อนที่ขนส่ง เมื่อเดินทางถึงบ้าน เราก็เก็บข้าวของก่อนลงมาหาแฟนดิฉันที่กำลังยุ่งกับการค้า

เราเปิดร้านขายของจิปาถะเหมือนร้านของถมในกรุงเทพฯ พวกลูกจ้างเป็นคนดูแลสินค้า ส่วนเราแค่คุมต่ออีกชั้นหนึ่ง

ดิฉันแนะนำยัยตู่กับยัยต้อมให้รู้จักกับเฮียเล็ก เพื่อนดิฉันสองคนถึงกับชมว่าเขายังดูไม่แก่ ไม่เหมือนชายวัย 50-60 ปี

ช่วงบ่ายเพื่อนสองคนขอไปเดินสำรวจสถานที่ใกล้ละแวกบ้าน พร้อมกับหาซื้อของเล็กๆ น้อย ดิฉันก็ปล่อยให้เพื่อนทำตัวตามสบาย

เมื่อเพื่อนไม่อยู่ดิฉันจึงปรึกษากับเฮียเล็กว่าจะให้เพื่อนๆ นอนกันที่ไหน เขาก็บอกให้ดิฉันไปเคลียร์ห้องว่างที่อยู่ติดกับห้องนอนเราชั้นสามไว้ต้อน รับเพื่อน

ยิ่งดิฉันได้คุยกับเขาใกล้ๆ แถมเขายังให้การต้อนรับเพื่อนดิฉันสองคนอย่างไม่รังเกียจทำให้ดิฉันรู้สึกผิดเข้าไปอีก 

เฮียเล็กมองหน้าดิฉันและจับสังเกตได้ เขาถามว่าดิฉันไม่สบายรึเปล่า อาจจะเหนื่อยจากการเดินทาง น่าจะนอนพักสักงีบ

ดิฉันรั้งเขาเข้ามากอดแน่น จนเขาแปลกใจขณะกำลังจะถามดิฉัน ลูกจ้างก็ตะโกนว่าเพื่อนดิฉันมาแล้ว

ดิฉันจึงรีบลงไปรับเพื่อนแล้วช่วยขนของขึ้นมาที่ห้อง

ยัยตู่กับยัยต้อมพอใจมากที่ได้ห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำหรูในตัว พวกเธอช่วยกันจัดของใช้ส่วนตัว ดิฉันจึงปล่อยให้เธอพักผ่อนก่อนย้ำว่า ช่วงเย็นลงไปกินข้าวด้วยกัน วันนี้แฟนดิฉันสั่งอาหารพิเศษจากร้านหรูข้างนอกมาเลี้ยง

ยัยต้อมรีบปฏิเสธบอกว่าพวกเธอกินอะไรง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากขนาดนั้นก็ได้

อาหารเย็นมื้อนั้นเรากินกันอย่างสนุก เพื่อนสาวสองคนของดิฉันก็ให้ความเป็นกันเองกับเฮียเล็กมาก

ยัยตู่ผลัดกับยัยต้อมคีบกับข้าวให้เขาเหมือนเพื่อนสนิทจนดิฉันอุ่นใจและเริ่มมีความสุขขึ้น

แฟนดิฉันที่อายุมากกว่า 2 รอบกลับรู้สึกเกรงใจเพื่อนดิฉันเสียอีก เพราะเราเป็นเจ้าบ้านแท้ๆ แต่ปล่อยให้ผู้มาเยือนคีบกับข้าวอาหารป้อนให้

หลังคนงานกลับออกไปในตอนค่ำ ดิฉันช่วยเฮียเล็กเก็บของแล้วปิดร้าน เขาก็ให้ดิฉันไปต้อนรับเพื่อนดีกว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องเคลียร์ของ

ดิฉันจึงแวะขึ้นไปห้องเพื่อนสาวสองคน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นยัยตู่นั่งดูทีวีอยู่ ส่วนยัยต้อมกำลังอาบน้ำ

ดิฉันถามเรื่องความสะดวกสบายเพราะอยากต้อนรับเพื่อนเต็มที่ ยัยตู่แกล้งถลึงตาบอกว่า แค่นี้ฉันสองคนก็จะเป็นนางฟ้าอยู่แล้ว ไม่ต้องเอาใจมากนักหรอก ไปเทกแคร์แฟนตัวเองดีกว่า

ยัยตู่พูดแค่นี้ก็รู้ว่าพูดผิด เพราะมันจี้ใจดำดิฉันพอดี เธอเข้ามาปลอบและขอโทษ ดิฉันยอมรับกับเพื่อนว่ารู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่คิดเรื่องนอกใจ
 

ดรุณี 4

เปี๊ยกหน้าบูดเบี้ยวเมื่อถูกมือสาวสวยอย่างยัยต้อม เธอเค้นคลึงจนมันได้ที่ก่อนก้มหน้าใช้ปลายชิวหาสัมผัสมันเบาๆ



ยัยตู่เห็นเพื่อสนุกกับมันจึงเข้ามาร่วมวงด้วย เธอแหย่หน้าเข้ามาก่อนยื่นลิ้นมาช่วยปลุกเร้าให้เปี๊ยก

ดิฉันยืนดูเพื่อนสองคนจนตัวแข็งไปหมด ดูเหมือนว่าเปี๊ยกจะดูอ่อนหัดกับประสบการณ์รักครั้งนี้

เขาถูกเพื่อนสาวที่เก๋าเกมทั้งสองผลัดกันเล่นงาน จนมันใกล้ถึงเส้นชัย พวกเธอก็หยุด เธอสลับทำแบบนี้จนกระทั่งเขาทนไม่ไหวต้องคลายของเสียออกจากร่างจนเปรอะพื้น ห้องไปหมด

ยัยตู่เดินไปหยิบกระดาษทิชชู่มาทำความสะอาดให้ ก่อนโน้มคอเขามาประกบปากอีกครั้ง

เปี๊ยกหลงไปตามอารมณ์ของเธอจนกระทั่งอาวุธของเขามันเริ่มกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

ขณะที่ดิฉันกำลังเพลินดูเขาสองคน เมื่อไปมองยัยต้อมก็สะดุ้งเฮือก เพราะเธอหลงเหลือชั้นในสองตัว เธอกำลังต้องการไปร่วมกับสนุกกับยัยตู่ต่อ

ยัยต้อมเข้าไปนัวเนียกับพวกเขาสองคน เธอลูบไล้ร่างกายของชายหนุ่มที่แผ่นหลัง เมื่อเขาหันมาโต้ตอบ เธอก็แลกจูบอย่างดูดดื่ม

ดิฉันดูพวกเขาถึงตอนนี้ก็รู้สึกกระดากสุดขีดจึงรีบกลับเข้าห้องล็อกประตูนั่งสงบสติอารมณ์คนเดียว

ดิฉันยอมรับว่าร่างกายภายในรู้สึกร้อนไปทั่วที่ได้เห็นภาพหนังสด อย่างใกล้ชิด พวกเขายังคงสนุกกันต่อ เมื่อดิฉันเหลียวมองผ่านกระจกออกไป ยัยต้อมกลายเป็นสาวเปลือยเปล่าอีกคน เธอกำลังโก้งโค้งให้หนุ่มอาคันตุกะกระแทกบั้นท้ายอย่างตื่นเต้น

แต่แล้วยัยตู่เจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามากระทันหันจนดิฉันตกใจ เธอเข้ามาดึงมือพยายามโน้มน้าวให้ดิฉันไปร่วมสนุกกับพวกเธอ ดิฉันบ่ายเบี่ยงจนเธอถลึงตา เธอบอกว่าชีวิตเป็นของเรา อย่าฝืนกายฝืนใจไปเลย

ดิฉันถูกเพื่อนเซ้าซี้หนักจนเริ่มใจอ่อน เพราะเธอบอกว่าไม่ยุ่งก็ไม่เป็นไร แต่อย่าหนีมานั่งในห้องคนเดียว

ดิฉันจึงเดินตามเพื่อนออกมา ยัยตู่กับหนุ่มเมื่อเห็นดินกลับเข้ามา พวกเขาจึงหยุดบทรักไปชั่วครู่

เปี๊ยกมองหน้าดิฉันอย่างมีเลศนัย เขายิ้มให้อย่างสุภาพพร้อมกับเอ่ยว่า อย่าฝืนใจไปเลยครับ เราแค่สนุกกัน ช่วยเหลือกันให้มีความสุข ไม่มีภาระผูกพันกัน หลังวันนี้ไปก็อาจจากกันไปเลยก็เป็นได้

ดิฉันนิ่งเงียบฟังเขากล่อมจนรู้สึกใจอ่อน เปี๊ยกเห็นดิฉันนิ่งไป เขาจึงลุกจากโซฟามาหาดิฉันด้วยสภาพล่อนจ้อนไม่มีอะไรมาปกปิด

ดิฉันหน้าแดงกล่ำเมื่อเขาเข้ามาใกล้ เปี๊ยกเดินอ้อมไปข้างหลังดิฉัน เขาเริ่มโอบกอดและสอดมือเข้าไปในเสื้อของดิฉันก่อนไล่มือลูบไล้มาถึงปทุมถัน สองข้างที่ยังมีบราเซียร์ปกปิดอยู่

เมื่อเขาเค้นคลึงถี่ขึ้นและเริ่มแรงขึ้น ดิฉันถึงกับหลับตาปี๋ยืนไม่ติดพื้น

จากนั้นเปี๊ยกก็ปลดเสื้อของดิฉันออกจากศีรษะ ก่อนนั่งคุกเข่าสูดดมหน้าท้องจนดิฉันวาบหวิวปั่นป่วนไปทั่วเรือนร่าง

ดิฉันปล่อยให้เขาทำจนเพลิน มารู้สึกอีกทีเมื่อเขารูดซิปกางเกงยีนรัดรูปของดิฉันออก

กางเกงขายาวของดิฉันถูกนำออกจากขาไปแล้ว เวลานี้ดิฉันเหลือเพียงชั้นในบางๆ สีชมพูสองชิ้นที่ปกปิดร่างกาย

เปี๊ยกเขยิบกายเข้าหาดิฉันอีกครั้ง เขาเอาหน้ามาจ่อตรงเป้าหมายที่ต้องการ ทำเอาดิฉันเริ่มรู้สึกอาย เพราะบิกินีตัวที่ใส่มันเป็นแบบบาง เห็นเนื้อหนังมังสาชั้นในอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสาหร่ายสีดำผืนใหญ่ภายในมันก็ปรากฏให้เขาเห็นอยู่รำไรแล้ว

เปี๊ยกใช้มือลูบไล้เบาๆ อย่างทะนุถนอม เมื่อเขาเห็นดิฉันกระสับกระส่ายยืนไม่ติดพื้น เขาจึงตัดสินใจจับขอบกางเกงแล้วรูดมันออกทันที

ทันทีที่บิกินีหลุดมากองปลายขา ดิฉันใจหายวาบ พยายามเอามามือบังจุดซ่อนเร้น เขาก็ไม่รอช้ารีบเอาหน้าเข้ามาซุกแล้วกอดรัดดิฉันแน่น

ใบหน้าของเขาฝังสนิทที่มัน แม้จะมีส่าหร่ายปกคุมหนาแน่นแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขา เขาสูดดมมัน เหมือนเจอของวิเศษสุด จนดิฉันอ่อนปวกเปียกทรุดลงกับโซฟาที่อยู่ใกล้ๆ

เปี๊ยกยังตามมาเล่นงานหว่างขาของดิฉันไม่ยอมปล่อย เขาจับขาของดิฉันเหยียบบ่าของเขาเพื่อให้หน้าของเขาเข้าใกล้จุดซ่อนเร้นมากที่สุด

ถึงเวลานี้เพื่อนสาวสองคนเห็นว่าดิฉันพร้อมที่จะร่วมวงสนุกกันแล้ว พวกเธอเข้ามาสมทบทันที คนหนึ่งช่วยลูบไล้ปทุมถัน ส่วนอีกคนใช้ปลายชิวหาละเลงมันอีกข้าง

ดิฉันเริ่มทนไม่ไหว โดยเฉพาะช่วงล่างที่ถูกเปี๊ยกจู่โจมไม่เลิก มันเริ่มชุ่มช่ำไปหมด

เขาทำจนมันได้ที่ จึงลุกขึ้นล้มตัวทับร่างของดิฉันและเตรียมนำอาวุธเข้าจ่อปากทางเข้าที่มีผืนหญ้าปกคุมอย่างหนาแน่น

ยัยต้อมเข้ามาช่วยอีกแรง เธอช่วยแหวกกอหญ้าเพื่อให้เขากันมันอย่างสบาย เปี๊ยกตั้งท่าเพียงเล็กน้อยก่อนดันพรวดเข้ามาจนดิฉันสะดุ้ง

ดรุณี 3

ดิฉันพยักหน้าช้าๆ พร้อมยอมรับว่า หนุ่มสองคนบุคลิกดีมาก



ยัยตู่คุยไปสักพัก หนุ่มสองคนก็ขอแลกเบอร์พวกเรา ก่อนกลับบ้านพวกเขายังเดินมาส่งที่รถด้วย

วันรุ่งขึ้นเปี๊ยกโทร.มาหายัยตู่ นัดกันไปเจอที่เดิม พวกเราอยู่กันพร้อมหน้าเลยหาเรื่องคุยกันสนุกๆ

ยัยตู่ยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนบอกว่า เปี๊ยกคงชอบเราแน่ หนุ่มพวกนี้ไม่จริงจังอะไรกับเราหรอก แค่อยากคบและมีอะไรกับเรา เพราะเห็นเราเปิดโอกาสให้เขา แม้ว่าเขาจะจริงใจแต่ก็คงคบกันไม่ได้หรอก

ยัยตู่ว่า ถ้าเขามาคนเดียว เดี๋ยวให้มาที่คอนโดฯ แล้วจับกินเลย

ยัยต้อมเห็นพ้องด้วย เธอคงแค้นแฟนเก่าอยู่จึงย้ำว่า เธออยากทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งสิ้นแล้ว

ดิฉันหน้าชาเพราะไม่คิดว่าเพื่อนสองคนจะคิดแบบนี้ เมื่อเอ่ยปฏิเสธ ยัยตู่ก็ถลึงตาขู่บอกว่า ถ้าไม่เล่นด้วยก็ดูเฉยๆ

ดิฉันกลัวเพื่อนสองคนโกรธ เลยตกกระไดพลอยโจนยอมทำตามใจเพื่อน ยอมอยู่ดูการกระทำของเพื่อน

ดิฉันไม่แน่ใจจึงเตือนสติเพื่อนสองคนว่า อย่าทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นคดีความก็แล้วกัน

พวกเธอหัวเราะ บอกว่า ผู้ชายไม่เสียหายหรอก อาจจะชอบด้วย

เย็นวันนั้น เปี๊ยกมาพบพวกเราที่ห้อง ยัยตู่บอกให้ดิฉันกับยัยต้อมไปหลบอีกห้องที่มีกระจกพิเศษ คนนอกไม่เห็นเพื่อคอยแอบดู

เรายืนดูเขาสองคนประมาณ 10 นาที ยัยตู่ก็เริ่มยั่วยวนจนเขาเริ่มกล้า เอามือมาลวนลามเธอ

จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มประกบปากกันอย่างดูดดื่มบนโซฟารับแขก ทำเอาผู้ชมอย่างดิฉันและยัยต้อมเริ่มเกิดอาการกระสับกระส่าย

ยัยตู่นั้นกล้ากว่า ปากเธอประกบแต่มือกับควานไปกุมหว่างขาของเขาแล้วรูดซิปล้วงเข้าไปภายใน

เขาเริ่มเคลิบเคลิ้มที่ถูกเพื่อนสาวของดิฉันกระทำแบบนี้ จึงปล่อยให้เธอทำตามปรารถนา

ยัยตู่ปลดกระดุมเสื้อแล้วรูดกางเกงของเขาออกจนร่างกำยำของเปี๊ยกเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว

จากนั้นเธอก็ก้มหน้าเขาหาอกบึกบึนของเปี๊ยก เธอบรรจงใช้ชิวหาละเลงไปทั่วขณะที่มือก็กุมความเป็นชายของเขาตลอดเวลา

เมื่อเห็นมันได้ที่ ยัยตู่ก็รูดปราการด่านสุดท้ายของเปี๊ยกออก อาวุธอันแข็งแกร่งทรงพลังของเขาพร้อมที่จะเตรียมสู้รบในสมรภูมิที่กำลังเกิด ขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว

เพื่อนสาวตัวแสบเริ่มเอาหน้าเข้าหาหว่างขาของเขาก่อนฮุบมันเข้าปากเหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็กทันที

ดิฉันไม่ได้เจอเพื่อนเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยคิดว่าเพื่อนจะเก่งขนาดนี้ เธอใช้ความนุ่มนวลโจมตีเปี๊ยกจนเขาหลับตามพริ้ม มือไม้เกร็งไปตามการกระทำของยัยตู่ บางจังหวะเขาถึงกับเงยหน้าขึ้นมาเพื่อพยายามเอามือมาขวางการกระทำของเธอ

สักพักยัยตู่ก็ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือชั้นในสองตัว เธอเดินเข้าหาเปี๊ยกให้เขาชื่นชมก่อนหมุนตัวถอดบิกินีออกทิ้งไป

ดิฉันเห็นเปี๊ยกจ้องมองด้วยความหื่นกระหาย เขาพยายามมองช่วงล่างของยัยตู่ตลอดเวลา

ยัยตู่เดินเข้าไปนั่งค่อมบนร่างของเปี๊ยกปล่อยให้เขาฝังหน้าที่ ปทุมถันสองข้าง เมื่อเห็นเขาพยายามจะแกะบราเซียร์ออก เธอจึงเอื้อมมือไปช่วยปลดออกเอง

จากนั้นเพื่อนสาวก็ควานหาของที่ต้องการแล้วสวมหมวกป้องกันอย่าง เสร็จสรรพ เธอจับมันตั้งลำจ่อปากทางเข้าก่อนดันช้าๆ เข้าสู่ร่างกายของเธอ

เธอรั้งชายหนุ่มเข้ามากอดแน่น และเริ่มโยกกายไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงร้องครวญครางของยัยตู่มันสร้างตื่นเต้นให้ดิฉันกับยัยต้อมเป็นอย่างมาก

ดิฉันเห็นเธอทำได้สักพักก็สลับเปลี่ยนท่ายืนโก้งโค้งให้เปี๊ยกเป็นผู้ออกแรงบ้าง

เปี๊ยกจับบั้นท้ายยัยตู่แล้วโยกกายอย่างต่อเนื่องทำเอาเธอหน้าตา บูดเบี้ยวส่งเสียงร้องอย่างเร้าใจออกมา ถึงตอนนี้ยัยต้อมที่ยืนดูอยู่กับดิฉัน เธอคงตบะแตกทนไม่ไหวจึงเปิดประตูออกไปร่วมวงด้วย

เปี๊ยกคงตกใจที่ความแตกว่า มีคนอื่นในห้องอยู่ด้วย เขาคงเข้าใจผิดคิดว่า คนที่เข้ามาเป็นแฟนยัยตู่ หน้าเขาซีดเผือดแต่เมื่อเห็นเป็นดิฉันกับยัยต้อม เปี๊ยกจึงรีบเอามือมาปิดความเป็นชายของเขาไว้ด้วยความอาย

ยัยตู่ชี้หน้าพวกเราแล้วหัวเราะ เธอบอกว่า ทนไม่ไหวแล้วซิ มาสนุกพร้อมกันเลย

ยัยต้อมจ้องมองเปี๊ยกชั่วครู่ ก่อนที่เธอนั่งยองๆ ข้างเขาแล้วเอื้อมมือไปจับสิ่งที่เธอต้องการ

เธอถอดหมวกป้องกันของเขาออกเพื่อต้องการสัมผัสเนื้อแท้โดยตรง เมื่อใช้มือลูบไล้มันเบาๆ มันก็เริ่มแข็งตัวพร้อมสู้รบทันที

ดรุณี 2

ยัยตู่ชูมันแล้วหัวเราะบอกว่า คนทำไอ้นี่อุตริดี เธอพูดจบก็เดินไปเปิดหนังเพื่อเร่งเร้าความต้องการของพวกเราขึ้นมา


หลังดูหนังไปสักพัก ยัยตู่เองก็ตบะแตกก่อน เธอเริ่มใช้มันถูไถร่างกายของตนเองก็เปลื้องผ้าออกจนหมดพร้อมนำมันเข้าสู่ ร่างกายท่ามกลางความตื่นตะลึงของยัยต้อมและดิฉัน

ยัยตู่เพลิดเพลินจนลืมไปว่า มีเพื่อนจ้องมองการกระทำของเธออยู่  เสียงครวญครางของเธอทำให้ดิฉันร้อนผ่าวไปทั่วร่างกาย ยัยตู่ใช้เวลาเกือบ 5 นาทีก็บรรลุเป้าหมายที่เธอต้องการ ก่อนยื่นเจ้าของเทียมส่งมาให้ดิฉัน 

ดิฉันรู้สึกกระดากรีบส่งต่อให้ยัยต้อม เธอรับมาดูนิดเดียวก็ลองใช้มันทันที

ยัยต้อมก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ายัยตู่ ทันทีที่มันเข้าสู่ร่างกาย  เธอก็ปล่อยอารมณ์เต็มที่

หากเจ้าสิ่งนั้นมันมีชีวิตมันคงให้ความสะใจเพื่อนดิฉันมากไปกว่านี้  เพียงแค่อึดใจเพื่อนคนที่สองของดิฉันก็สาสมใจไปเช่นกัน

ยัยต้อมยื่นส่งมาให้ดิฉันใช้มันเป็นคนสุดท้าย ดิฉันส่ายหัวปฏิเสธ ยัยตู่เลยถลึงตาใส่พร้อมกับพยักหน้าให้ยัยต้อม ก่อนที่ทั้งคู่จะจับดิฉันถอดผ้าจนหมด 

ยัยตู่ขู่บอกให้ดิฉันนอนเฉยๆ พร้อมกดแขนดิฉันไว้  ส่วนเพื่อนอีกคนก็จับดิฉันถ่างขาออก

เธอค่อยๆ ใส่เบาๆ ก่อนหมุนมันเหมือนช่างใช้ไขควงกำลังขันนอต ดิฉันรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก แต่เมื่อยัยต้อมเริ่มชักมันเข้าออกถี่ขึ้น  ดิฉันถึงกับสะดุ้งเกิดอาการเกร็งสุดตัวต้องแอ่นร่างดุจสะพานโค้งเข้าต่อต้าน เจ้าสิ่งนั้นอย่างเต็มที่

เพื่อนดิฉันสองคนรู้งาน เธอจับร่างดิฉันแน่น อีกคนก็เร่งการทำมืออย่างรวดเร็วจนดิฉันหน้าบูดเบี้ยวหวีดร้องออกมาลั่นห้อง ก่อนระเบิดอารมณ์อย่างสุขสันต์เต็มที่

ดิฉันนึกถึงเรื่องนี้แล้ว รู้สึกคิดถึงเพื่อนสองคนขึ้นมาทันที  สิบกว่าปีแล้วที่เราไม่ได้พบกัน ยัยตู่เพิ่งเขียนจดหมายมาหาดิฉัน จดหมายเธอเขียนแบบเดาสุ่มเพราะไม่มั่นใจในที่อยู่เดิม

ดิฉันจากเพื่อนทั้งสองมาใช้ชีวิตต่างจังหวัดหลายปี หลังจากที่แต่งงานทำการค้าต่างจังหวัดก็ไม่เคยติดต่อใครเลย

ยัยตู่ทิ้งเบอร์โทร.ไว้ในจดหมาย เมื่อดิฉันโทร.กลับไป เธอดีใจมาก เธอเล่าว่า เธอกับยัยต้อมยังไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ

ยัยต้อมมีแฟนรุ่นเดียวกัน ทำงานค้าขายเช่นกัน ส่วนตัวยัยตู่ทำงานบริษัทเรื่อยเปื่อย

หลังคุยกันสักพักยัยตู่ก็ชวนให้ดิฉันมาเที่ยวกรุงเทพฯ เธอบอกให้ดิฉันมาพักที่คอนโดเธอได้เลย

ดิฉันจึงเคลียร์งานช่วงสุดสัปดาห์ก่อนขอแฟนมาเที่ยวกรุงเทพฯ เพื่อมาเจอเพื่อนเก่า เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

แรกเจอยัยตู่ ดิฉันยอมรับว่า เพื่อนดูสวยขึ้นมาก  เธอแต่งตัวทันสมัย แต่งหน้าแต่งตาตลอดเวลา แต่แล้วยัยตู่ก็แจ้งข่าวร้ายว่า ยัยต้อมเพิ่งเลิกกับแฟนเพราะจับได้ว่า แฟนเธอมีคนอื่น แถมยังคบหากับแฟนเก่าอีก

ยัยต้อมหนีมาพักกับยัยตู่หลายวัน แฟนก็ไม่มาง้อจึงเลิกกันเด็ดขาด

ดิฉันเห็นเธอซึมจึงช่วยกันปลอบ สุดท้ายยัยตู่จึงชวนเราไปเที่ยวผับ หาความสำราญเหมือนวัยรุ่น

ยัยต้อมเริ่มตัดใจอะไรได้ เธอถึงกับลั่นปากว่า เธอจะเศร้าซึมอีกต่อไป เธออยากจะทำอะไรให้เป็นอิสระ ไม่แคร์ใครอีกต่อไปแล้ว

ยัยตู่ชูนิ้วโป้งให้ บอกว่า มีแฟนแล้วยุ่งยาก ทำตัวแบบเธอสบายกว่า

คืนนั้นเพื่อนสาวสองคนพาดิฉันไปเสริมสวยก่อนออกไปเที่ยวกลางคืน

ดิฉันรู้สึกแปลกๆ เมื่อส่องมองกระจกก็รู้สึกว่า ตัวเองดูดีขึ้นและยอมรับว่า หลายปีมานี้ดิฉันมีแต่งานจนลืมตัวเองไป

เพื่อนสาวสองคนยังชมว่า ดิฉันดูดีกว่าพวกเธอ เพราะเป็นคนสูงอยู่แล้ว

ดิฉันก็เห็นเพื่อนแต่งตัว แต่งหน้าแล้วยอมรับว่า พวกเธอก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน

ยัยตู่ผมยาวสลวยหุ่นดี ใบหน้าสวยคิ้วคมเข้ม ส่วนยัยต้อมผิวพรรณดีมาก แม้จะตัวเล็กแต่ก็สวยเหมือนสาวญี่ปุ่น

พวกเราสามคนกลายเป็นจุดเด่นของหนุ่มหลายคนที่เข้ามารุมจีบขอเบอร์  ยัยตู่ที่เก๋าประสบการณ์พยายามเฟ้นคนที่เหมาะสมให้นั่งโต๊ะด้วย ใครที่ดูน่ารังเกียจเธอจะปฏิเสธในทันที

จนกระทั่งช่วงดึกมีหนุ่มสองคนเข้ามาคุยด้วย  ดิฉันสังเกตเห็นว่า เขายังดูอ่อนวัยมาก แต่คำพูดคำจาดูดีเป็นผู้ใหญ่

พวกเขาแนะนำตัวคนหนึ่งชื่อ  โก้ อีกคนชื่อ เปี๊ยก

หลังคุยกันสักพักก็รู้ว่า เขาสองคนอ่อนกว่าพวกเราหลายปี  ยัยตู่แอบกระซิบดิฉันว่า เธอชอบกินเด็ก จะช่วยให้เธอกระชุ่มกระชวยเหมือนเป็นวัยรุ่นอยู่เสมอ

''สองคนนี้ดูดีไหม?'' เธอหันมาถามความเห็นดิฉัน