วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

ดรุณี 6

ยัยต้อมที่อาบน้ำเสร็จ เธอได้ยินเรื่องนี้พอดี เธอเข้ามาให้กำลังใจพร้อมกับเอ่ยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของอารมณ์พาไป เชื่อว่าหากเรื่องนี้เกิดกับแฟนดิฉันบ้าง เขาก็อาจเข้าใจ



ดิฉันยังไม่แน่ใจเรื่องที่เพื่อนพูด แต่เมื่อเธออธิบายว่า สมมติว่าเฮียเล็กเกิดพลาดไปมีผู้หญิงอื่นอย่างไม่ตั้งใจ เธอจะโกรธไหม

ดิฉันปฏิเสธว่า ไม่รู้ ยัยต้อมเลยหัวเราะบอกว่า คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน บางครั้งก็พลาดเผลอกันได้เหมือนเธอที่พลาดไปเพราะอารมณ์ 

ยัยตู่เลยเสริมว่า เอางี้ลองดูไหม ฉันเชื่อว่าเธอจะสบายใจขึ้นแน่ ถ้าเฮียเล็กก็เผลอใจไปกับหญิงอื่น เธอจะไม้รู้สึกผิดอีกต่อไป เพราะถือว่าเจ๊ากันไป

ดิฉันยังงง ไม่เข้าใจที่เพื่อนพูด พวกเธอเลยเฉไฉไปพูดเรื่องเที่ยววันรุ่งขึ้น

ดิฉันเลยนึกขึ้นได้ว่า แฟนดิฉันให้มาบอกว่า พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว และให้ลูกจ้างคนสนิทดูแลร้านให้ จะออกเดินทางช่วงเช้าเพราะอากาศกำลังดี สายๆ อาจจะร้อนเขาขอให้คืนนี้นอนเร็วหน่อย

วันรุ่งขึ้นพวกเรา ตื่นเต่เช้าและเริ่มออกเดินทางเมื่อพร้อมทันที ดิฉันแปลกใจที่เพื่อนสองคนแต่งตัวค่อนข้างสบายเกินไป ยัยตู่ใส่เสื้อยืดแขนกุด รัดรูป กระโปรงสั้น ส่วนยัยต้อมใส่สายเดี่ยว กางเกงยีนขาสั้นก็สั้นเต่อมาก ดิฉันเองกลับใส่ยีนขายาวและเสื้อธรรมดาเท่านั้น

ก่อนขึ้นรถยัยตู่ขออนุญาตไปนั่งหน้ารถคู่เฮียเล็ก โดยอ้างว่าอยากดูวิวชัดๆ ดิฉันก็ไม่ปฏิเสธเพื่อน เพราะอยากเอาใจพวกเขาสองคนเต็มที่ ดิฉันจึงไปนั่งหลังรถคู่ยัยต้อม

ระหว่างทางยัยตู่ชวนแฟนดิฉันคุยตลอดทางอย่างสนุก ยัยต้อมก็เสริมตลอดเวลา จนพวกเราคุ้นกันมาก ดิฉันก็สังเกตว่าเฮียเล็กเริ่มสนิทกับเพื่อนดิฉันทั้งๆ ที่ตอนแรกดิฉันเองก็ห่วงกลัวว่าเขาจะเบื่อหรือรำคาญที่ต้องมาเป็นสารถีขับรถ และเอาใจพวกดิฉัน

เราพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวน้ำตกและชมวิวไหล่ทางตามเขา ทำเอาเพื่อนๆ ตื่นตาตื่นใจ ถามไถ่ดิฉันและแฟนไม่ขาดปาก

ช่วงพักเที่ยงเราแวะรับประทานอาหารตามข้างทาง ระหว่างนั้นเอง ดิฉันเหลือบไปสังเกตเห็นว่ายัยตู่ที่ใส่กระโปรงสั้นนั้นนั่งโป๊มาก ที่สำคัญเธอไม่สวมบิกินีชั้นในด้วยซ้ำ

ดิฉันแอบไปสะกิดยัยต้อมให้รู้ เธอแค่อมยิ้มบอกว่า ยัยตู่เป็นผื่นแพ้กางเกง วันนี้ยอมโล่งโจ้งสักวัน


ดิฉันไม่ว่าอะไร เพราะคิดว่าคงไม่มีใครทันสังเกตแน่นอน

ช่วงบ่ายดิฉันเผลอหลับไประหว่างทางที่รถกำลังเข้าสู่น้ำตก เมื่องัวเงียตื่นขึ้นมาก็ตกใจที่เห็นยัยตู่กำลังลูบไล้หน้าอกเฮียเล็ก แถมมือของเธอยังกุมที่เป้าของเขาอีกต่างหาก

ยัยต้อมที่นั่งข้างดิฉันรีบรั้งไว้แอบกระซิบว่า อยู่เฉยๆ ก่อนนะ ทำเป็นหลับไปก่อน

ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่เพื่อนกล้าทำแบบนี้ เมื่อรถถึงที่หมายและจอดสนิท พวกเขาสองคนก็หันมาปลุกดิฉันกับยัยต้อมที่แกล้งหลับ

ยัยต้อมรีบฉุดดิฉันไปเข้าห้องน้ำแล้วเริ่มเรื่อง เธออธิบายสาเหตุที่แท้จริงว่า เธอและยัยตู่อยากให้ดิฉันเลิกคิดมากเรื่องที่เผลอตัวไปกับชายคนอื่น จึงตามกลับมานี่เพื่อชดเชยให้แฟนเธอ

เพื่อนดิฉันสองคนเชื่อว่า หากเฮียเล็กเผลอตัวไปกับหญิงอื่นบ้างก็เหมือนชดเชยกัน ความรู้สึกที่ดิฉันพลาดไปก็อาจลบล้างกันได้

เธอกับยัยตู่เช็กแล้วว่า เฮียเล็กก็เผลอใจไปเยอะเหมือนกัน เพราะคงทนโดนยั่วไม่ไหว

เธอเล่าว่า ยัยตู่แกล้งใส่กระโปรงสั้น ไม่ใส่กางเกงเพื่อต้องการยั่วเขาเต็มที่ เธอแกล้งทำเป็นเผลอนั่งหวอให้เห็นกันเต็มๆ

ยัยต้อมถามให้แน่ใจว่า ดิฉันไม่โกรธใช่ไหม หากพวกเธอช่วยให้เฮียเล็กมีความสุข

ดิฉันยอมรับว่า ไม่โกรธจริงๆ เป็นการดีเสียอีก หากพวกเราเข้ากันได้ดี

เมื่อดิฉันพูดแค่นี้ยัยต้อมถึงกับหัวเราะออกมา พร้อมกับบอกว่า เดี๋ยวคืนนี้เราทำอะไรสนุกๆ กันดีกว่า

ค่ำวันนั้นเมื่อกลับไปที่บ้านดิฉัน เพื่อนตัวแสบทั้งสองให้ดิฉันไปหลบในตู้เสื้อผ้าแล้วคอยดูว่าพวกเธอสองคนกับแฟนดิฉันจะทำอะไรกัน

ดิฉันตื่นเต้นที่จะได้แอบดูพฤติกรรมของแฟน จึงนึกสนุกเห็นพ้องด้วย เมื่อแอบมองจากช่องเล็กๆ ในตู้เสื้อผ้าก็เห็นเพื่อนสาวทั้งคู่เตรียมพร้อมเต็มที่

คนหนึ่งใส่ผ้าขนหนูผืนเดียว อีกคนก็ใส่ชุดนอนบางๆ จนโปร่งใสเห็นความว่างเปล่าภายใน

เฮียเล็กเข้ามาแล้ว เพราะยัยต้อมไปเรียกให้เข้ามาช่วยขยับเตียงภายในห้อง

แฟนดิฉันทำท่างงๆ เขาสลับแอบมองเพื่อนดิฉันตลอดเวลา 

ยัยต้อมพยายามชวนเขาคุย เขาถามว่าดิฉันไปไหน ยัยต้อมปดไปว่า ดิฉันออกไปซื้อของมินิมาร์ทข้างนอก

ระหว่างนั้นเอง ยัยตู่ทำเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอก็แก้ผ้าขนหนูยืนหวีผมที่กระจกโดยไม่มีเสื้อผ้าปกปิด

เฮียเล็กตกใจที่เห็นเธอทำเช่นนี้ เขาทำตัวไม่ถูกแกล้งไม่มองยัยตู่

ยัยต้อมหัวเราะคิก เธอบอกแฟนดิฉันว่า พวกเธอทำตัวตามสบายอย่าได้ถือสา ถ้าอยากมองก็มองไม่เห็นจะแปลก

ถึงตอนนี้แฟนดิฉันคงรู้แล้วว่าเพื่อนดิฉันสองคนกำลังให้ท่า แม้ว่าเขายังนิ่งอาจเพราะยังเกรงใจดิฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้

ยัยต้อมเดินเข้าหาเฮียเล็กก่อน เธอเข้าไปนั่งใกล้ๆ เขาแล้วถอดชุดนอนออกจากร่างจนเปลือยเปล่า

เธอขึ้นค่อมแล้วดันร่างแฟนดิฉันลงนอนบนเตียง ก่อนใช้ปากประกบแน่น เขาคงทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงเอื้อมมือไปลูบไล้เรือนร่างของเธอ

ดิฉันเห็นยัยตู่รีบเข้ามาสมทบช่วยถอดกางเกงออกจากปลายขาแล้วใช้มือควานหาของที่ต้องการที่มันซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นในของเขา

เธอเหมือนไม่ทันใจจึงรีบรูดปราการด่านสุดท้ายของเขาออก มันเป็นอาวุธที่ดิฉันคุ้นเคย แต่ในขณะนี้มันกลับถูกเพื่อนดิฉันแย่งไปใช้งานชั่วคราว

ยัยตู่ส่งมันเข้าปากแล้ว เธอบรรจงใช้ชิวหาเล่นงานมันจนเฮียเล็กที่ถูกยัยต้อมพัวพันเริ่มเกิดอาการเกร็งไปทั่วเรือนร่าง

ยัยต้อมเห็นว่าเขาถูกจู่โจมจึงอยากให้เขาเพลิดเพลิน เธอจึงนั่งค่อมบนหน้าแล้วแอ่นร่างถูไถอย่างสนุก

เสียงของยัยต้อมทำให้ดิฉันที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าเกิดอารมณ์ร่วมตาม ไปด้วย เธอบอกให้แฟนดิฉันเกร็งปากให้แน่น เธอจะเป็นฝ่ายโยกกายให้เข้าจังหวะเอง

แฟนดิฉันเชื่อฟังเธอดี เพียงแค่อึดใจ เพื่อนดิฉันก็หวีดร้องถึงเส้นชัยไปด้วยฝีมือของเฮียเล็ก

ยัยตู่ที่เล่นกับอาวุธประจำกายของเขาอยู่พักใหญ่ เริ่มอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น เธอหยิบปลอกกันพิษมาสวมใส่ให้เขาก่อนนั่งยองๆ แล้วจับมันยัดเข้าสู่ร่างกายทันที

เธอแอ่นร่างรับการเสียดสีอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสียงเร้าใจออกมาอย่างต่อเนื่อง แค่นาทีเดียวเพื่อนดิฉันก็บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เธอโซเซทรุดนอนกอดเขาด้วยความเหนื่อยอ่อน เพราะทุ่มเทกับการใช้พลังงานอย่างรวดเร็วมากเกินไป

หลังพักอึดใจ เธอและยัยต้อมก็หันมาใช้มือช่วยเขาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหมือนเธอ คราวนี้เฮียเล็กถูกสาวสองคนประสานมือกันอย่างเข้าขา เขาส่งเสียงอึดอัดในลำคอแค่แวบเดียว มันก็คายพิษออกมาจนเปรอะผ้าปูที่นอน

ยัยตู่ลุกไปเอากระดาษชำระมาช่วยเช็ดทำความสะอาด เขาเหมือนรู้สึกตัวได้จึงรีบใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เขาคงกลัวความผิดว่า เผลอนอกใจดิฉันไปนั่นเอง

เมื่อแฟนดิฉันออกจากห้องไปแล้ว เพื่อนสองคนเห็นหน้าดิฉันแล้วอมยิ้ม รีบแนะให้ดิฉันออกไปก่อนที่เขาจะมาเห็น

หลังเพื่อนดิฉันกลับไปกรุงเทพฯ แล้ว แฟนดิฉันไม่กล้ามองหน้าดิฉันพักใหญ่ เขาคงรู้สึกกลัวความผิดเหมือนกับที่ดิฉันเคยทำ

ดิฉันรู้สึกขอบใจเพื่อนที่ทำให้ปมในใจมันคลายลงจนสิ้น เพราะอย่างน้อยที่สุดเรื่องที่ผิดพลาดไปในชีวิตของดิฉันมันก็เสมอกันเหมือน ไม่เคยทำพลาดมาก่อนจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น