วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ร้านก๋วยเตี่ยวบ้านแม่ยาย

ร้าน ก๋วยเตี๋ยวบ้านแม่ยาย....ใครนะ



วันนี้เราทีมงาน ตามรอยนักชิม ได้ มุ่งหน้าไปตามหาร้านอาหารประเภทเส้น..เส้นอย่างเดียวเลยจริงๆนะ  อิอิ. ในระหว่างทางที่เรากำลังขับรถไปนั้น จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น  กริ้งๆๆ ทางสายลับของเราแอบแจ้งเบาะแสเข้ามาว่าร้านที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเจ๋ง จริงได้แก่ ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านแม่ยายที่เปิดมาปีกว่าๆแล้ว   เราทีมงานตามรอยนักชิมจึงรีบมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุความอร่อยนั้น ทันที.....
     

....เมื่อเรามาถึงก็ต่างตื่นตาตื่นใจนึกไม่ถึงว่าภายในซอยเล็กๆนี้จะมีร้าน ที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามและเรียบง่ายบวกกับเพลงเบาๆที่ทางร้านเปิดบรรยากาศ ที่ร่มรื่นลมพัดเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวแบบชิวๆเป็นที่สุดพอ รู้สึกตัวอีกทีก็ซัดไปหลายล่ะ หุหุ    บรรยากาศภายในร้านจะเน้นสีโทนอ่อนทำให้สบายตาและรู้สึกกว้างกินเท่าไหร่ก็ ไม่อึดอัดเลย

ส่วนที่มาของชื่อร้านนั้นตัวเราทีมงานเองก็สงสัยและงงๆ อิอิ ว่ามีที่มายังไงเน้อ  ทันทีที่เราได้เจอกับผู้ดูแลร้านทำให้เราอดที่จะถามถึงความเป็นมาของชื่อว่า มีที่มาอย่างไร......ปรากฏว่าถามไปถามมา “แม่ยาย”คนนี้เป็นแม่ยายของเพื่อนคุณป้าง(นครินทร์  กิ่งศักดิ์) อีกทีนั้นเอง  คือเจ้าของจริงๆนั้นชื่อว่าคุณ แมนพงษ์ เสนาณรงค์ และ คุณ พวงรัตน์ เสนาณรงค์ และที่ๆใช้เปิดร้านก็เป็นที่ดินของแม่ยายด้วย เค้าก็เลยนำชื่อนี้มาตั้งนั้นเองจร้า

และแล้วก็ถึงเวลาแห่งการรอคอยกับเมนูเด็ดยอดฮิตประจำร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านแม่ ยาย เมนูที่ทางร้านจัดมาให้ก็จะเป็น 3เมนูหลักที่ใครๆมาก็จะต้องสั่งขณะที่เรานั่งรอ... เจ้ากลิ่นของก๋วยเตี๋ยวนั้น ก็ ฟุ้งอบอวนไปทั่วบริเวณไปหมดทำให้น้ำย่อยตัวดีของเรามันเริ่มทำงานแล้วสิ  จนอดใจรอไม่ไหวต้องคอยชะเง้อมองว่าจะมาเสิร์ฟที่โต๊ะเรายังน้า....หอมๆ
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย ….



เป็นจานแรกที่เราจะได้ลิ้มรสกัน อิอิ ดีใจๆ  รสชาติของชามนี้บอกได้เลยว่ากลมกล่อมแต่อาจจะต้องปรุงเองสักนิดเพราะทางร้าน จะทำรสชาติแบบดั้งเดิมคือไม่เน้นปรุงมาให้แน่นอนว่ารสชาติปากแต่ล่ะคนนั้น ไม่เหมือนกัน...

เรื่องเส้นของก๋วยเตี๋ยวเองเค้าก็พีถีพิถันในการทำจนนิ่มไม่แข็งกะด้างจน เกินไป ทันทีที่เราใช้ตะเกียบคีบเนื้อเปื่อยขึ้นมา บอกได้เลยว่ากลิ่นมันเตะจมูกอย่างแรงและชวนให้รีบนำเข้าปาก อิอิ เนื้อเปื่อยของที่นี่จะมีลักษณะเป็นชิ้นยาวๆนิดนึงเค้าตุ๋นจนมีความเปื่อย และนิ่มมากจริงๆยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งมันพะย่ะค่ะ
เนื้อเปื่อยปิ้งจิ้มแจ่ว



จานที่สองตามมาเสิร์ฟติดๆกับเนื้อเปื่อยปิ้งจิ้มแจ่ว จ้า กลิ่นหอมสดชื่นดีจริงๆ (อิอิไม่ใช่ดอกไม้) เนื้อเปื่อยที่นำไปปิ้งนั้นก็ยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้นเป็นทวีคูณต่างจาก การตุ๋นเพราะการปิ้งจะช่วยให้มีความกรอบนอกนุ่มในและเนื้อออกมันหน่อยๆ นอกจากตัวเนื้อเองแล้วน้ำจิ้มก็เด็ดไม่แพ้กัน คือสองอย่างนี้พูดได้เลยว่าลงตัวจริงๆแนะนำให้เพื่อนๆไปลองอย่างยิ่ง  ของเขาอร่อยดีจริงๆ
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรโบราณ
  

 จานที่สามรูปร่างหน้าตาก็คงจะไม่แปลกสักเท่าไหร่เพราะมันก็คือก๋วยเตี๋ยว ต้มยำที่เราเห็นขายกันอยู่ทั่วๆไปแต่เมนูนี้เค้าภูมิใจเสนอ...... และย้ำกับเราว่ามันเป็นสูตรโบราณจริงๆ ฉะนั้นจะประมาทมองแค่เปลือกนอกไม่ได้ซะแล้ว อิอิ

ต้องลิ้มรสให้เข้าถึงเนื้อในพอตักเข้าปากเท่านั้นแหละ .. ตาดำเปิดกว้างเหงื่อหยดติ้งๆเลย ฮ่า ฮ่าอร่อยจริงๆ คือ ไม่ต้องปรุงเพิ่มรสชาติลงตัวมากๆหอมกลิ่นต้มยำแท้ๆเน้นรสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ด้วยมะนาวแท้ โดยมีรสเค็มรสหวานตามใส่ถั่วแขกและถั่วลิสงบวกกับเกี้ยวทอดและ  เครื่องอื่นๆมีหมูสับ ตับ หมู อีกด้วยเรียกว่าครบเครื่องจริงๆ
และนอกจากของคาวแล้วเรามาดูของหวานกันบ้าง ก็จะมีให้เลือกสรรหลากหลาย  แต่บังเอิญวันนั้นทางร้านค่อนข้างจะยุ่งเราก็เลยไม่ได้นำภาพมากฝากกันจร้า ใครที่อยากเห็นก็ต้องไปลิ้มลองด้วยตัวเองถึงจะหายข้องใจ ....
1.ลอดช่องน้ำกะทิ
2.รวมมิตรกะทินมสด
3. ลูกตาลลอยแก้ว
4.สละลอยแก้ว
5. เต้าทึง
  หน้าตานามบัตรและแผนที่ของร้าน ก๋วยเตี๋ยวบ้านแม่ยาย …. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น