สิ่งที่บุคคลทั่วไปไม่ควรคิด
พระพุทธเจ้า ตรัสว่า พุทธวิสัย ๑ ฌานวิสัย ๑ กรรมวิบาก ๑ โลกจิณไตย ๑ บุคคลทั่วไปไม่ควรคิด ถ้าหากว่าคิดพึงมีส่วนของความเป็นบ้า พึงมีส่วนของความเป็นบ้า แปลมาจากบาลีว่าอุมฺมตฺตกภาโค แต่ถ้าหากเป็นเราพูดภาษาไทยชัดๆ ก็คือ คิดไปก็บ้าเสียเปล่าๆ คิดไม่ออกหรอก
พุทธวิสัย ก็คือความสามารถของพระพุทธเจ้า
บุคคลที่สร้างบารมีมาอย่างน้อย ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป บุคคลทั่วๆ ไปแค่ ๑
อสงไขยก็บรรลุมรรคผลได้แล้ว บุคคลที่ทำงานมากกว่า ๔ เท่า
ย่อมรวยกว่าไม่รู้เท่าไร ไม่ต้องไปคิดหรอก เสียเวลาเปล่าๆ
ฌานวิสัย ความสามารถของผู้ทรงฌานสมาบัติ
เขาจะผาดแผลงสำแดงฤทธิ์อย่างไร ก็ทำได้อยู่แล้วเป็นปกติ
เราทำไม่ได้แล้วไปคิดว่าเขาทำอย่างไรหนอ ? คิดให้หัวแตกก็คิดไม่ออก
เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะคิดได้ หากแต่เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้
กรรมวิบาก คือการส่งผลของกรรม
จะพิลึกพิลั่นอัศจรรย์ขนาดไหน แค่พระนางสิริมหามายา ทรงความอัศจรรย์ ๑๒
ประการ ก็ว่ามากแล้ว
พระพุทธเจ้าของเราประกอบไปด้วยพระพุทธลักษณะอีกมากมายมหาศาล
แต่ละอย่างเกิดจากกรรมในอดีตที่พระองค์ท่านสร้างมาทั้งสิ้น"
" โลกจิณไตย ความเป็นไปของโลก ทำไมภาคเหนือถึงแผ่นดินไหว ?
ทำไมภาคกลางจึงหนาว ? ทำไมภาคใต้ถึงน้ำท่วม ? คิดแค่ประเทศเราก็จะบ้าแล้ว
ถ้าหากคิดไปว่า ทั้งโลกทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? ก็จะประสาทกินเสียเปล่าๆ
ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสห้ามเอาไว้ เพราะว่า วิบาก
คือการส่งผลของกรรมนั้น เป็นไปตามผลที่ตนเองทำมา แต่ว่าผลมหัศจรรย์นั้น
ถ้าได้ทำในส่วนที่เป็นบุญกุศลในเขตของพุทธศาสนา
จะส่งผลให้มากกว่าที่ทำจนประมาณไม่ได้ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น